xs
xsm
sm
md
lg

คค.โยกงบรางคู่ 6 หมื่นล.ลุยไฮสปีดเทรน “ชัจจ์” ว้ากรถเมล์อมเหรียญ 50 ส.ต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก
“ชัจจ์” สั่งเบรก โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง 6 หมื่นล้าน พร้อมโยกงบพัฒนาไฮสปีดเทรน 4 เส้นทาง เชียงใหม่ ระยอง หัวหิน เน้นสายอีสาน ต่อเพิ่มจากโคราชถึงขอนแก่น เพื่อรองรับขนส่ง ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง ส่วนรถเมล์บางสายไม่ทอนเหรียญ 50 สตางค์ สั่งให้ ขสมก.เข้มงวด-ลงโทษขั้นเด็ดขาด

พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการหารือกับผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อเดินหน้าโครงสร้างแผนการลงทุนพัฒนาระบบราง โดยระบุว่า รัฐบาลอาจต้องชะลอลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ของ ร.ฟ.ท.ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยววงเงินลงทุนรวม 1.76 แสนล้านบาท เพื่อนำงบประมาณลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ มาพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง โดยรูปแบบโครงการจะเป็นทางระดับดิน ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร ใช้ความเร็วประมาณ 200-250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง คือ 1.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 2.กรุงเทพฯ-หัวหิน 3.กรุงเทพฯ-ระยอง และ 4.กรุงเทพฯ-ขอนแก่น โดยจะให้ ร.ฟ.ท.เร่งศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนคาดว่าจะใช้งบประมาณในการศึกษาเส้นทางละประมาณ 50 ล้านบาท และจะเร่งให้ลงนามสัญญาก่อสร้างได้ภายใน 4 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท.ได้ศึกษาความเหมาะสมเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เสร็จแล้ว แต่ตนต้องการขยายแนวเส้นทางต่อไปยังขอนแก่น เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าว น้ำตาล มันสำปะหลัง

สำหรับงบประมาณในการดำเนินโครงการ คงไม่ให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพราะถือเป็นบริการพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลและควบคุมอัตราค่าโดยสาร โดยรัฐบาลต้องลงทุนเอง ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่าโดยอาจใช้การยืมเงิน หรือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ส่งผลให้ต้นทุนการเงินต่ำ หรืออาจใช้รูปแบบบาร์เตอร์เทรด โดยนำสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ชำระเงินให้กับผู้ลงทุน ซึ่งมั่นใจว่ามีประเทศที่สนใจ โดยเฉพาะจีน ซึ่งเคยแสดงความสนใจเมื่อหลายปีก่อน

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เดิมซึ่งอยู่ในแผนลงทุน 1.76 แสนล้านบาท มี 5 เส้นทาง วงเงิน 66,110 ล้านบาท ได้แก่ 1.ลพบุรี-นครสวรรค์ ระยะทาง 113 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท 2.เส้นทางมาบกะเบา-นครราชสีมา (ชุมทางถนนจิระ) ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท 3.เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม.วงเงิน 13,010 ล้านบาท 4.เส้นทางนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท และ5.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท

พล.ต.ท.ชัจจ์ ยังกล่าวถึงการที่มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนว่าพนักงานเก็บค่าโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บางเส้นทาง ไม่ยอมทอนเงินเหรียญ 50 สตางค์ ให้แก่ผู้โดยสาร หลังจากอัตราค่าโดยสารขสมก.ชนิดรถร้อนมีการปรับลดราคาเหลือเป็นเศษ 50 สตางค์ ในวัน 1 กันยายน 2554 (วันนี้) ตนเองได้สั่งการให้ ขสมก.และเขตการเดินรถทั้งหมดเข้มงวดกับพนักงานเก็บค่าโดยสารให้ทอนเงินเศษ 50 สตางค์ให้ถูกต้อง และครบถ้วนแล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน หากพบว่าส่อทุจริตให้ลงโทษขั้นเด็ดขาด

“รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ด้วยการปรับลดค่าโดยสารลง แต่หากปรับลดแล้ว แต่พนักงานยังไม่ทอนเงินก็เหมือนไม่ได้ปรับลดราคา ดังนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีพนักงานคนใดฝ่าฝืน ไม่ทอนเงินถือว่ามีความผิดจะไม่มีการทำทัณฑ์บน แต่จะลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที”

นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า สำหรับพนักงานเก็บค่าโดยสารที่ถูกร้องเรียนว่าไม่ทอนเงินนั้นตนได้สั่งการให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก เริ่มจากตักเตือน ตัดเงินเดือน และโทษสูงสุดปลดออก
กำลังโหลดความคิดเห็น