xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ ชง 3 ทางเลือกค่าแรง 300 เวทีสัมมนา มธ. มั่นใจได้มากกว่าเสีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก.อุตฯ เตรียมเสนอ 3 ทางเลือกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ยอมรับกระทบธุรกิจขนาดเล็กไม่มาก เพราะใช้แรงงานน้อย แต่ธุรกิจขนาดกลางอาจแย่ นักวิชาการ ประเมิน รบ.ใหม่ทำได้จริง ด้านกลุ่มแรงงาน เชื่อ รบ.ใหม่ดันนโยบายขึ้นค่าแรงสำเร็จ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ มธ. ชี้ เป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ลดปัญหาแรงงานเข้ากรุง ด้านผู้ค้าตลาดบางแค คาดช่วยเพิ่มกำลังซื้อ พร้อมเรียกร้อง รบ.ปู เร่งแก้ของแพง

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการเสนอรัฐบาลชุดใหม่ ตั้งคณะศึกษาปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท โดยนำมาประกอบในแผนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมถึงความเป็นไปได้ของอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ ซึ่งต้องเดินหน้าพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน

โดยจากการพิจารณาฐานข้อมูลอุตสาหกรรม พบว่า นโยบายนี้กระทบธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ไม่มากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ อุตสาหกรรมขนาดกลางที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เพราะต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มเป็นสัดส่วนที่สูง เมื่อเทียบกับรายได้ ต่างจากกิจการขนาดใหญ่ที่มีกำไรมาก

ขณะที่กิจการขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ใช้แรงงานน้อย กระทรวงอุตสาหกรรมจึงทำผลกระทบ และข้อเสนอวิธีขึ้นค่าแรงใน 3 แนวทาง คือ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งขัดแย้งกับการสนับสนุนให้ตั้งโรงงานในภูมิภาค ซึ่งเดินหน้ามานานนับ 10 ปี เพื่อกระจายรายได้

ส่วนทางเลือกที่ 2 คือ ให้ขึ้นค่าแรง 300 บาท เฉพาะจังหวัดที่มีศักยภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงงานไหลสู่จังหวัดที่ปรับขึ้นค่าแรง และทางเลือกที่ 3 ให้จัดทำเกณฑ์มาตรฐานฝีมือรายโรงงาน เช่น ต้องได้ผลผลิต 100 ชิ้นต่อวัน จึงจะสามารถรับค่าแรงตามอัตราใหม่ เพื่อพัฒนาแรงงานพร้อมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่สัปดาห์หน้า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมสรุปโครงการเร่งด่วน พร้อมพิจารณาโครงการและแผนที่มีอยู่ให้สอดคล้องแนวทางรัฐบาลใหม่ เช่น แผนส่งเสริมนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โครงการลงทุนเหล็กขั้นต้นคุณภาพสูง การบริหารจัดการพื้นที่เหมืองแร่เชิงรุก และการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

ส่วนแผนและยุทธศาสตร์การลงทุนในระยะ 5 ปี ข้างหน้ายังมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ยุโรป และคาดว่า เม็ดเงินลงทุนในปีนี้ จะอยู่ที่ 400,000 - 500,000 ล้านบาท

นายจิรสันต์ ประกายสิงห์ ตัวแทนกลุ่มประกายทุน กล่าวในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ ในงานสัมมนา 300 บาท ได้ได้หรือได้เสีย ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมองว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาลใหม่ ทำได้แน่นอน เนื่องจากเป็นการกระจายรายได้สู่แรงงานท้องถิ่นมากขึ้น ลดการเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ทางผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับตัวในการพัฒนาคุณภาพฝีมือแรงงาน ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดได้

นายพรมมา ภูมิพันธ์ ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเครือเบอร์ร่า มั่นใจว่า รัฐบาลใหม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะไม่ถึง 441 บาท ซึ่งเป็นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ควรจะได้จริง แต่ 300 บาท ก็สามารถช่วยให้แรงงานไทย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

นอกจากนี้ สหภาพแรงงานยังเป็นห่วงในเรื่องของนายทุนจากภาคธุรกิจที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีนักการเมืองบางส่วน ที่เข้ามีส่วนร่วมในการต่อต้านการดำเนินงานของรัฐบาลใหม่

ขณะที่นายกฤตวัฒน์ โล่วัชรี อาจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น มั่นใจว่าสามารถทำได้จริง ซึ่งผู้ประกอบการทุกประเภท รวมไปถึงกลุ่ม เอสเอ็มอีทุกระดับ จะต้องมองถึงข้อเท็จจริง และแนวโน้มถึงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะแก้ปัญหาสร้างงาน สร้างรายได้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลักการปรับฐานระดับค่าครองชีพที่ยังคงสูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของวิชาเศรษฐกิจในปัจจุบัน

นายกฤตวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของพรรคเพื่อไทย จะก่อให้เกิดความสมดุล ทั้งในด้านของรายรับรายจ่ายของกลุ่มผู้ใช้แรงงานทุกระดับ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการหลายแห่งประกาศปรับขึ้นค่าแรงทันที หลังพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีการจ่ายเงินเดือนรูปแบบใหม่กันแล้วตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ค้าปลีกเนื้อหมูหน้าเขียงที่ตลาดบางแค พบว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาลใหม่ เป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากช่วยให้ประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อยมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และไม่กระทบต่อผู้ค้าปลีกเนื้อหมู ซึ่งปกติมีการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย เฉลี่ยที่ 350 บาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนภายในตลาดบางแค ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยแก้ไขในเรื่องของราคาของแพงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น