ผู้เชี่ยวชาญน้ำมัน ชี้ ผู้ใช้ดีเซลมีสิทธิ์โดนลอยแพหลัง เม.ย.นี้ อาจเจอปัญหาใหญ่ 2 เด้ง คาดระดับราคามีโอกาสขยับไปที่ 33-35 บาทต่อลิตร เพื่อสะท้อนต้นทุนจริง ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันสำเร็จรูปในสิงคโปร์ มีโอกาสปรับลงได้ยาก
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่า อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันดีเซลภายในประเทศ ซึ่งแนวโน้มเฉลี่ยในปี 2554 จะอยู่ที่ระดับลิตรละ 33 บาท
“ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาน้ำมันสำเร็รูปตลาดสิงคโปร์ ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมคาดว่าจะอ่อนตัวลง รวมทั้งภัยพิบัติในญี่ปุ่นจะทำให้ความต้องนำเข้าน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อทิศทางราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในปี 2554 แน่นอน”
นายมนูญ กล่าวว่า โอกาสที่จะเห็นราคาดีเซลสิงคโปร์ลดลงมากคงยาก แต่ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสสปรับลดลงได้อีก หากสถานการณ์ตะวันออกกลางคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนดีเซลแล้ว 5.10 บาทต่อลิตร แต่ถ้ารัฐไม่ตรึงราคาก็จะสูงถึง 35 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันก็อยู่ในระดับต่ำ ล่าสุด ค่าการตลาดเบนซินอยู่ที่ 1.30 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร
ทั้งนี้ การที่คณะกรรมการนโยบายบริหารพลังงาน (กบง.) ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายปลีกดีเซลกว่า 9,000 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตามนโยบายรัฐบาลนั้น คาดว่า สิ้นเดือนเมษายน 2554 นี้ เงินกองทุนฯก็จะหมดพอดี จากปัจจุบันมีเงินอยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาท เมื่อหักหนี้จะเหลือเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท
นายมนูญ ยังคาดว่า หากรัฐบาลจะใช้เงินกองทุน เพื่อดูแลราคาน้ำมันดีเซลหมดในเดือนเมษายน 2554 หลังจากนั้นจะกลายเป็นภาระประชาชน หากต้องปล่อยราคาลอยตัว จากนี้ไปคาดว่าราคาจะไม่ปรับลดลงอีก ซึ่งทำให้ต้องเจอ 2 เด้ง ทั้งราคาน้ำมันแพง กองทุนก็ไม่มีโอกาสเรียกเก็บเงินคืน ท้ายสุดแล้ว คงต้องผลักภาระให้ประชาชน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะการชดเชยราคาจากภาครัฐไม่สามารถครอบคลุมต้นทุนทั้งหมด ล่าสุด ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งความเป็นจริงควรอยู่ที่ 1.50 บาทต่อลิตร จึงต้องการให้ กบง.พิจารณาชดเชยราคาเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม กรณีที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติต้องการให้บริษัทน้ำมันนำปาล์มบริสุทธิ์ (ไบโอดีเซล บี100) มาผสมดีเซลในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ผสมอยู่ 2% เพื่อจำหน่ายเป็นไบโอดีเซล บี2 นั้นบางจากพร้อมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวแต่จะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นคือ 1.ปาล์มดิบ (CPO) เพียงพอหรือไม่ ไม่ควรจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะการส่งเสริมเกษตรกรให้ได้ราคาปาล์มสูงขึ้น บริษัทพร้อมสนับสนุนแต่จะต้องบอกล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ เพื่อเตรียมพร้อมด้วย 2.ราคา บี100 ค่อนข้างสูงหากต้องนำมาผสมดีเซลเพิ่มอีก 1% หรือเป็น บี3 ก็จะทำให้ต้นทุนผู้ค้าเพิ่ม 10 สตางค์ต่อลิตร ดังนั้น รัฐบาลจะต้องดูค่าการตลาดส่วนนี้ให้เหมาะสมด้วย