คนใช้เบนซินต้องทำใจ! ราคาขายปลีกจ่อขยับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อลิตร หลังค่าการตลาดวูบเหลือ 90 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันดิบโลกพุ่งแตะ 105 ดอลลาร์ต่อบาเรล ทุบสถิติรอบ 2 ปีครึ่ง วงการคาด กบง.เคาะอุ้มดีเซลอีก 50 สตางค์ รวมเป็นเงินอุดหนุน 5.50 บาทต่อลิตร ปตท.เตรียมเสนอผ่อนผันน้ำมันดีเซลสำรองตาม กม. นำมาขายได้ หลังยอดขายพุ่งเพราะถูกตรึงราคาที่ 30 บาทต่อลิตร
มีรายงานข่าวว่า ผู้ค้าน้ำมันของไทย เตรียมปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มอีกลิตรละ 50 สตางค์ ในวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.) หลังค่าการตลาดเฉลี่ยเหลือไม่ถึงลิตรละ 90 สตางค์ ส่วนน้ำมันดีเซล ยังรอผลประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ช่วงบ่ายวันนี้ คาดเห็นชอบให้อุดหนุนเพิ่มอีก 50 สตางค์
สำหรับสาเหตุสำคัญในการปรับขึ้นราคาน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับขึ้นไม่หยุดจากปัญหาลิเบีย และตะวันออกกลาง โดยล่าสุด น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ในการปิดตลาดวานนี้ (7 มี.ค.) ที่ระดับ 105.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ปรับตัวลดลง 0.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 115.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 111.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบนซิน ปิดที่ 124.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่ม 1.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดีเซลปิด 131.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนราคากลุ่มดีเซลนั้น ผู้ค้าน้ำมันกำลังรอผลประชุม กบง.บ่ายวันนี้ จะเห็นชอบอุดหนุนวงเงินเพิ่มเติมเท่าใด คาดอาจจะเป็น 50 สตางค์ จากเดิมจะอุดหนุน 35 สตางค์ เพราะล่าสุดราคาตลาดสิงคโปร์ระหว่างการซื้อขายดีดขึ้นไปอีก ยิ่งอุดหนุนเพิ่ม ก็จะมีผลทำให้เงินกองทุนน้ำมันหมดเร็วขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศย้ำอุดหนุนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 ก็ตาม
ทั้งนี้ หาก กบง.อุดหนุนเพิ่มอีก 50 สตางค์ จะทำให้ยอดอุดหนุน รวมเป็น 5.50 บาทต่อลิตร ทำให้เงินกองทุนน้ำมันเชิ้อเพลิงไหลออกวันละประมาณ 327 ล้านบาท หรือเดือนละกว่า 9,800 ล้านบาท โดยค่าการตลาดดีเซล ล่าสุดเหลือประมาณ 78 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งดีเซลของสถานีบริการเอกชนหลายแห่งในเขตกรุงเทพฯ อยู่ที่ 30.49 บาทต่อลิตร
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดีเซลของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ระดับ 29.99 บาทต่อลิตร ผลพวงของราคาต่างกัน 50 สตางค์ ก็ทำให้ชาวบ้านแห่มาเติมน้ำมัน ปตท.มากขึ้นจน จนกระทั่ง ปตท.เกรงว่าจะขนส่งดีเซลไปขายไม่ทัน จึงเตรียมจะเสนอต่อกระทรวงพลังงาน ขอผ่อนผันข้อกำหนดสำรองน้ำมันตามกฏหมายร้อยละ 5 หรือ 18 วัน เพื่อนำน้ำมันสำรองออกทางกฏหมายออกมาจำหน่ายเป็นการชั่วคราว
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง จากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกลางและแอฟริกาเหนือ โดยน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 110-120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 98-108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โดยประเด็นในวันนี้ คงต้องติดตามท่าทีขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย ที่ล่าสุด นาโตตัดสินใจส่งเครื่องบินตรวจการณ์ทางทหารขึ้นบิน เพื่อเฝ้าดูและเก็บภาพสถานการณ์ความรุนแรงต่างๆ ในลิเบียแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายคาดกันว่าเป็นขั้นแรกของมาตรการข้าแทรกแซงทางทหารของนาโต
ขณะที่อังกฤษและชาติอื่นๆ ในยุโรปกำลังพยายามผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศให้ลิเบียเป็นเขตห้ามบินเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นำลิเบียใช้เครื่องบินรบเข้าปราบรามกลุ่มผู้ต่อต้าน ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้รับการสนับสนุนผ่านแถลงการณ์จากกลุ่มประเทศสันนิบาตอาหรับ
**น้ำมันแพง! “น้ำมันเถื่อน-น้ำมันปลอม” ระบาดหนัก
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดทำรถโมบายยูนิต ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยราคาคันละ 6 ล้านบาท และล่าสุด ได้ส่งไปประจำทุกภาค รวมทั้งภาคใต้ด้วยก็จะเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการที่ร่วมดูแลคุณภาพน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันปลอมปน และนำมันที่มีการลักลอบนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอด และได้ประสานงานกับกรมศุลกากรในการตรวจเข้มการลักลอบนำเข้า แต่ก็ยอมรับว่าทำได้ลำบาก
นายพีระพล ยังกล่าวด้วยว่า จากการเข้าตรวจสอบสถานการณ์ปริมาณปาล์มน้ำมันในประเทศ หลังจากกรมธุรกิจพลังงาน ได้มีการสอบถามจากผู้ประกอบการโรงงานไบโอดีเซล เกษตรกร และโรงหีบปาล์มน้ำมัน มั่นใจว่า ในช่วงเดือนเมษายน- มิถุนายนนี้ จะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาดเพียงพอกับความต้องการใช้ ทั้งในภาคพลังงานและภาคการบริโภค ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนของปาล์มน้ำมันลงได้
ทั้งนี้ คาดว่า สต๊อกผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ของประเทศที่ใช้ในภาคขนส่งที่ออกมาจะมีปริมาณอยู่ที่ 120,000 ตันต่อเดือน เป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับสตอกปาล์มน้ำมันที่ได้กำหนดไว้ ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ของประเทศที่ใช้ในภาคการบริโภคอยู่ที่ 1 ล้านตันต่อเดือน
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน มั่นใจว่า ในช่วงเดือนมิถุนายน 2554 นี้ ปริมาณไบโอดีเซล บี100 จะเข้าสู่ระบบผลิตพลังงานสูงสุด โดยมีกำลังสำรองน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) อยู่ที่ประมาณ 200,000 ตันต่อเดือน จึงจำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และหากปริมาณเพียงพอ ในเดือนเมษายนนี้ทางกระทรวงพลังงานจะกลับไปจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล บี3 ทั่วประเทศอีกครั้ง จากที่ขณะนี้ จำหน่ายบี 2 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 1-31 มีนาคม 2554
**เชลล์ แจงน้ำมันแพงกว่า แต่เจ๋ง-ประหยัดกว่า
ด้าน พิศวรรณ อัชนะพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์ในประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เชลล์พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการจำหน่ายดีเซล หากพ้นสิ้นเดือนมีนาคม 2554 ไปแล้ว ก็คงจะจำหน่าย บี3 ไม่กลับไปขาย บี5 และการขาย บี3 ก็จะทำให้ยอดขายของเชลล์พุ่งสูงขึ้นด้วย เพราะประชาชนยังนิยมเติมมากกว่า บี5
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลของเชลล์ที่อาจจะแพงกว่ารายอื่นๆ ก็เป็นการสะท้อนราคาต้นทุนที่แท้จริง และผู้ที่มั่นใจน้ำมันเชลล์ โดยเฉพาะคุณภาพน้ำมันที่ช่วยประหยัด ลูกค้ากลุ่มนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปใช้รายอื่นแต่อย่างใด