“พาณิชย์” เสกเงินเฟ้ออยู่หมัด สวนทางสินค้าราคาพุ่งยกแผง เผยเดือน ก.พ.ขยับแค่ 2.87% ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายกังวลแทบแย่ “ยรรยง” คุยคุมราคาสินค้าได้ผล แต่ผลสำรวจคนละเรื่อง ราคาขยับหมดทั้งหมู เป็ด ไก่ ไข่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ยังมั่นใจทั้งปีคุมได้ 3.2-3.7% ชี้ น้ำตาลแพง เหตุกองทัพมดขนขายเพื่อนบ้าน แจง “มาร์ค” หาช่องคุมไข่ หลังราคาขึ้นกระฉูด
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.พ.2554 เท่ากับ 109.95 เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.40% เทียบกับเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว สูงขึ้น 2.87% เฉลี่ย 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 สูงขึ้น 2.95% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักกลุ่มอาหารสดและน้ำมันเชื้อเพลิงออก เทียบ ม.ค.สูงขึ้น 0.14% เทียบก.พ.2553 สูงขึ้น 1.45% และเฉลี่ย 2 เดือนสูงขึ้น 1.39%
“เงินเฟ้อเดือน ก.พ.นี้ สวนทางผู้ทำนโยบายรัฐ ที่กลัวเงินเฟ้อพุ่ง เพราะปัญหาน้ำมันแพง สินค้าเกษตรแพง โดยเงินเฟ้อ 2.87% เป็นเงินเฟ้อที่เหมาะสมกับการพื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งได้รับอานิสงค์จากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด จึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับปกติ ก็ควรใช้เงินกันตามปกติ” นายยรรยง กล่าว
นายยรรยง กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.พ.สูงขึ้น 2.87% เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในหมวดต่างๆ ที่มีทั้งขึ้นและลง โดยหมวดเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ สูงขึ้น 1.6% ไข่ไก่ 2.73% ผลไม้สด 8.05% เครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช กะทิสำเร็จรูป มะพร้าวขูด มะขามเปียก เครื่องปรุงรส สูงขึ้น 0.35% ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 1.76% ขณะที่ผักสด ลดลง 12.77% และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.18%
“ในเดือน ก.พ.สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่สูงขึ้น ที่กระทบประชาชน เช่น ไข่ไก่ สูงขึ้น 2.73% หมูเนื้อแดงก็ขึ้นเป็น กก.ละ 115-125 บาท น้ำตาลทราย สูงขึ้น 6.28% ราคาขายในตลาดสดเฉลี่ย กก.ละ 25-28 บาท น้ำมันปาล์ม ก็สูงขึ้นจากเดือน ม.ค.3% แต่ถ้าเทียบ ก.พ.ปีก่อน สูงขึ้น 16.51% หรือขายเฉลี่ยในตลาด 47-58 บาท ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองลิตรละ 46-55 บาท” นายยรรยง กล่าว
อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อในเดือน มี.ค.คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ก.พ.ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่วนราคาสินค้ายังทรงตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงมาตรการตรึงราคา โดยยังมั่นใจว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ในระดับ 3.2-3.7% โดยเฉลี่ยไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.09% ไตรมาส 2 3.45% และไตรมาส 3 3.5-3.6%
นายยรรยง กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้น้ำตาลทรายราคาสูงขึ้น เป็นการสูงขึ้นในส่วนของตลาดสด ที่ยังคงมีการขายเกินราคา แต่ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกรายใหญ่ ขายในราคาควบคุม 23.50 บาท โดยพบว่าปริมาณไม่ขาดแคลน แต่ราคาน้ำตาลทรายในตลาดเพื่อนบ้านราคาสูงกว่าราคาในประเทศ จึงเกิดปัญหาการลักลอบทีละเล็กละน้อย
ส่วนไข่ไก่ที่ราคาสูงขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะนโยบายขายไข่ชั่งกิโลไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นเพราะส่วนหนึ่งคนไม่ชินกับการซื้อขายแบบชั่งกิโล และประชาชนบางส่วนยังไม่เชื่อมั่นว่าซื้อไข่แบบชั่งกิโลจะช่วยลดราคาได้ และการที่ราคาไข่ที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะผลผลิตบางช่วงในระบบน้อยลงไป ซึ่งรัฐบาลค่อนข้างห่วงในเรื่องนี้ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภว่าจะมีทางที่จะคุมราคาไข่ได้หรือไม่
“ตอนนี้ไข่เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้คุมราคา แต่ถ้ารัฐบาล เห็นว่าจำเป็น ก็คุมได้ทันที ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน รวมทั้งคณะกรรมการเอ้กบอร์ดด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปพิจารณาข้อมูลให้รอบด้านแล้ว” นายยรรยง กล่าว
ทั้งนี้ ราคาไข่ไก่ ล่าสุด เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 3.40-3.50 บาท เบอร์ 1 อยู่ที่ ฟองละ 3.30-3.40 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 3.10-3.20 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 3.00-3.10 บาท เบอร์ 4 ฟองละ 2.90-3.00 บาท และเบอร์ 5 ฟองละ 2.80-2.90 บาท
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.พ.2554 เท่ากับ 109.95 เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.40% เทียบกับเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว สูงขึ้น 2.87% เฉลี่ย 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 สูงขึ้น 2.95% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักกลุ่มอาหารสดและน้ำมันเชื้อเพลิงออก เทียบ ม.ค.สูงขึ้น 0.14% เทียบก.พ.2553 สูงขึ้น 1.45% และเฉลี่ย 2 เดือนสูงขึ้น 1.39%
“เงินเฟ้อเดือน ก.พ.นี้ สวนทางผู้ทำนโยบายรัฐ ที่กลัวเงินเฟ้อพุ่ง เพราะปัญหาน้ำมันแพง สินค้าเกษตรแพง โดยเงินเฟ้อ 2.87% เป็นเงินเฟ้อที่เหมาะสมกับการพื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งได้รับอานิสงค์จากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด จึงไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล อยากให้ประชาชนมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับปกติ ก็ควรใช้เงินกันตามปกติ” นายยรรยง กล่าว
นายยรรยง กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.พ.สูงขึ้น 2.87% เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในหมวดต่างๆ ที่มีทั้งขึ้นและลง โดยหมวดเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ สูงขึ้น 1.6% ไข่ไก่ 2.73% ผลไม้สด 8.05% เครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช กะทิสำเร็จรูป มะพร้าวขูด มะขามเปียก เครื่องปรุงรส สูงขึ้น 0.35% ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 1.76% ขณะที่ผักสด ลดลง 12.77% และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.18%
“ในเดือน ก.พ.สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่สูงขึ้น ที่กระทบประชาชน เช่น ไข่ไก่ สูงขึ้น 2.73% หมูเนื้อแดงก็ขึ้นเป็น กก.ละ 115-125 บาท น้ำตาลทราย สูงขึ้น 6.28% ราคาขายในตลาดสดเฉลี่ย กก.ละ 25-28 บาท น้ำมันปาล์ม ก็สูงขึ้นจากเดือน ม.ค.3% แต่ถ้าเทียบ ก.พ.ปีก่อน สูงขึ้น 16.51% หรือขายเฉลี่ยในตลาด 47-58 บาท ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองลิตรละ 46-55 บาท” นายยรรยง กล่าว
อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อในเดือน มี.ค.คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ก.พ.ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่วนราคาสินค้ายังทรงตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงมาตรการตรึงราคา โดยยังมั่นใจว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ในระดับ 3.2-3.7% โดยเฉลี่ยไตรมาส 1 อยู่ที่ 3.09% ไตรมาส 2 3.45% และไตรมาส 3 3.5-3.6%
นายยรรยง กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้น้ำตาลทรายราคาสูงขึ้น เป็นการสูงขึ้นในส่วนของตลาดสด ที่ยังคงมีการขายเกินราคา แต่ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกรายใหญ่ ขายในราคาควบคุม 23.50 บาท โดยพบว่าปริมาณไม่ขาดแคลน แต่ราคาน้ำตาลทรายในตลาดเพื่อนบ้านราคาสูงกว่าราคาในประเทศ จึงเกิดปัญหาการลักลอบทีละเล็กละน้อย
ส่วนไข่ไก่ที่ราคาสูงขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะนโยบายขายไข่ชั่งกิโลไม่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นเพราะส่วนหนึ่งคนไม่ชินกับการซื้อขายแบบชั่งกิโล และประชาชนบางส่วนยังไม่เชื่อมั่นว่าซื้อไข่แบบชั่งกิโลจะช่วยลดราคาได้ และการที่ราคาไข่ที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะผลผลิตบางช่วงในระบบน้อยลงไป ซึ่งรัฐบาลค่อนข้างห่วงในเรื่องนี้ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภว่าจะมีทางที่จะคุมราคาไข่ได้หรือไม่
“ตอนนี้ไข่เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้คุมราคา แต่ถ้ารัฐบาล เห็นว่าจำเป็น ก็คุมได้ทันที ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน รวมทั้งคณะกรรมการเอ้กบอร์ดด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปพิจารณาข้อมูลให้รอบด้านแล้ว” นายยรรยง กล่าว
ทั้งนี้ ราคาไข่ไก่ ล่าสุด เบอร์ 0 อยู่ที่ฟองละ 3.40-3.50 บาท เบอร์ 1 อยู่ที่ ฟองละ 3.30-3.40 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 3.10-3.20 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 3.00-3.10 บาท เบอร์ 4 ฟองละ 2.90-3.00 บาท และเบอร์ 5 ฟองละ 2.80-2.90 บาท
