พาณิชย์ พบต้นตอน้ำมันปาล์มยังขาดแคลน หลังการนำเข้าล็อตแรก 3 หมื่นตัน เพราะโรงงานน้ำมันพืชที่ได้รับโควตา 4 แห่ง เบี้ยวผลิต ทำให้ขาดตลาดเกือบ 10 ล้านขวด “พรทิวา” เตรียมชะลอนำเข้าล็อต 2 จำนวน 1.2 แสนตัน หลังถูกโก่งราคานำเข้า หวั่นดันต้นทุนราคาขายปลีกแพงขึ้นอีก
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบโรงงาน 10 แห่ง ที่ได้รับการจัดสรรน้ำมันปาล์มในโควตานำเข้าพิเศษ 3 หมื่นตัน จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 (วานนี้) พบว่า มีโรงงานที่ผลิตน้ำมันบรรจุขวดออกมาแล้ว 6 โรงงาน แต่ที่เหลืออยู่ 4 โรงงาน ยังไม่มีสินค้าออกมาจำหน่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งติดตามว่าเกิดปัญหาอะไรจึงยังไม่ยอมผลิตสินค้าออกมา ทั้งที่ตอนนี้สินค้าขาดตลาดอย่างมาก โดยโควตาน้ำมันปาล์มดิบใสของ 4 โรงงานมีปริมาณรวม 12,850 ตัน คิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์ม 9,814,000 ลิตร หรือบรรจุขวดลิตรได้ 9.814 ล้านขวด
รายงานข่าวเพิ่มเติม ระบุว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงว่ากระทรวงพาณิชย์ อาจชะลอนำเข้าน้ำมันปาล์มรอบ 2 จากต่างประเทศ 1.2 แสนตัน ที่กำหนดให้ทันก่อนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ ออกไปก่อน เพื่อรอดูภาวะราคาและตลาดสินค้า เนื่องจากตอนนี้ราคานำเข้าสูงมาก ซึ่งหากนำเข้ามาจะทำให้ราคาขายปลีกแพงขึ้น รวมถึงอาจกระทบให้ราคาปาล์มในประเทศตกลง ประกอบกับสถานการณ์ผลผลิตในประเทศเริ่มคลายตัว เริ่มมีผลปาล์มฤดูใหม่ออกสู่ตลาด รวมถึงการที่กระทรวงพลังงานยังได้ปรับนโยบายผลิตน้ำมัน บี5 ลงเหลือเป็น บี2 จึงใช้น้ำมันปาล์มเข้าไปผสมลดลง
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ดำเนินการเอาผิดกลุ่มที่หวังผลประโยชน์ และโก่งราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มที่มีการฉวยโอกาสขายสูงถึงขวดละ 70 บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถรับได้กับการฉวยโอกาส เพราะเป็นการค้ากำไรเกินควร และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่มีความต้องการซื้อน้ำมันปาล์มไปเพื่อการบริโภค โดยหากพบการกระทำการดังกล่าวให้ลงโทษทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้บริโภค ที่ไม่สามารถหาซื้อน้ำมันปาล์มได้ จึงได้ให้กรมการค้าภายในปรับเปลี่ยนวิธีการกระจายน้ำมันปาล์มด้วยการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำน้ำมันปาล์มจำนวน 10 ล้านขวด กระจายให้ถึงมือประชาชนตามแหล่งและสถานที่ต่างๆ และในวันนี้ คาดว่า จะเหลือเพียงไม่ถึง 5 ล้านขวด และจะหมดลงไม่เกินวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ โดยในสัปดาห์นี้จะเร่งสรุปการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ จำนวน 1.2 แสนตัน ที่อยู่ระหว่างการเจรจาตกลงกับผู้ประกอบการ ว่าจะสามารถรับซื้อราคาน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศในสัดส่วนเท่าใด
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ราคาจำหน่ายตามเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้ ขนาดขวด 1 ลิตรไม่เกิน 47 บาท ผู้ประกอบการอาจไม่สามารถรับได้ ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงกำลังพิจารณาถึงความเหมาะสม ให้ขยายราคาเพดานจาก 47 บาท โดยจะขึ้นตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญจะต้องไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
“เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจน คาดว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ลอตแรกของ 1.2 แสนตัน จำนวน 30,000 ตัน น่าจะนำเข้าได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม และนำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคไม่เกิน 3 วัน คาดว่า อย่างช้ากระจายน้ำมันปาล์มลอตดังกล่าวสู่มือผู้บริโภคได้ในช่วงต้นมีนาคม 2554 นี้”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในช่วงเดือนมีนาคม 2554 อีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตภายในประเทศเริ่มออกสู่ตลาดจำนวนมาก และหากผลผลิตมีจำนวนมากก็จะพิจารณาปริมาณการนำเข้าเพิ่มเติมที่ส่วนเหลืออีกครั้งหนึ่ง
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแล และแก้ไขปัญหาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค กล่าวว่า ได้ส่งทีมสายตรวจพิเศษของกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันปาล์มในห้างค้าปลีก หลังได้รับการร้องเรียน ว่า มีการลักลอบขายน้ำมันปาล์มจุกสีฟ้าทำกำไร รวมถึงขายเจาะจงแก่ผู้ใดผู้หนึ่งมากกว่าโควตาปกติ ส่งผลให้เกิดขาดแคลน และประชาชนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ ขณะเดียวกัน จะตรวจสอบข้อมูลการรับสินค้าและจำหน่ายผ่านระบบคอมพิวเตอร์ด้วย