ภาคเอกชนมึน “แดงถ่อย” ขู่เส้นตายยุบสภา 15 มี.ค.ไร้เหตุผลความชอบธรรมสิ้นดี เพราะ ศก.เริ่มฟื้นตัว-บ้านเมืองกำลังเริ่มเดินหน้า ห่วงอุบัติเหตุกดดันถึงขั้นต้องยุบสภา อาจทำให้เกิดภาวะสุญญากาศยาว ประเทศชาติเสียโอกาส ศก.ทรุดกู่ไม่กลับ วอนสาวกแม้วอดทนอีก 1 ปี ค่อยเลือกตั้งใหม่ อย่าเอา ศก.ประเทศเป็นตัวประกัน จับเท็จ “แกนนำ” อ้าง ปชต.ใช้สิทธิชุมนุม แต่ไม่เคารพกติกา ปชต.จริง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงเหตุผลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศแตกหักถ้ารัฐบาลไม่ยุบสถาในวันที่ 15 มีนาคม 2553 นี้ โดยระบุว่า เป็นการเรียกร้องที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เนื่องจากบ้านเมืองกำลังเริ่มเดินหน้าไปได้ด้วยดี ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องประกาศยุบสภา
“ตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น นักลงทุนต่างชาติเริ่มมั่นใจและเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องรีบยุบสภา เพราะบ้านเมืองจะต้องกลับไปนับศูนย์ใหม่ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมอดทนอีก 1 ปี ค่อยไปเลือกตั้งสู้กันใหม่”
ดังนั้น การที่เสื้อแดงอ้างสิทธิชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ภาคเอกชนจึงอยากให้เคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตยด้วย เพราะรัฐบาลชุดนี้เหลือเวลาอีกเพียง 1 ปี ก็จะครบวาระ เมื่อถึงเวลานั้นค่อยเลือกไปตั้งกันใหม่
ด้าน นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนติดตามสถานการณ์อยู่ด้วยความไม่สบายใจ เพราะเศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว ทั้งด้านการส่งออกและการท่องเที่ยว หากมีการกดดันจนถึงขั้นยุบสภา จะทำให้เกิดช่องว่างทางการเมืองขึ้น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งงบไทยเข้มแข็งและการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งมาตรการต่างๆ สะดุดหมด ทำให้ไทยเสียโอกาสการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน
ดังนั้น ภาคเอกชนจึงอยากเห็นการเมืองต่อเนื่อง และขอโอกาสให้รัฐบาลทำงานได้ต่ออีกสักพัก เพื่อให้เคลียร์ปัญหาทุกเรื่องที่ยังค้างอยู่ให้จบก่อน เพราะไม่อยากให้เกิดภาวะสุญญากาศ เพราะหากคราวนี้เกิดสะดุดอีก เท่ากับว่า เป็นคนป่วยที่กำลังฟื้นแล้วขาดออกซิเจน ซึ่งไม่ควรเอาเศรษฐกิจของประเทศมาเป็นตัวประกัน