xs
xsm
sm
md
lg

ห่วง "ด่ง" ทรุดเกิน 5.2% ส่งออกเดี้ยแน่ แฉสัญญาณโจมตีค่าเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"กอร์ปศักดิ์" ยันปัญหา "ดูไบ" ฟองสบู่แตก ไม่กระทบ ศก.ไทย ส.อ.ท.ยันกังวล "ด่ง" มากกว่า ชี้ หากเวียดนามลดค่าเงินเกิน 5.2% กระทบส่งออกแน่ เพราะจะทำให้สินค้าเวียดนามถูกกว่าไทยทันที 10% สภาหอการค้าฯ ประเมินปัญหา "ดูไบ" รูปแบบใกล้เคียง "ซับไพรม์" ของสหรัฐฯ พร้อมตั้งข้อสังเกตุในการการลดค่าเงินด่ง สะท้อนอันตรายการโจมตีค่าเงิน




นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาฟองสบู่แตกที่ดูไบส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยน้อยมาก เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการเงินเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอีกระยะ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหา และประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในดูไบขณะนี้ ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยตรง เนื่องจากไทยไม่ได้มีการทำธุรกิจหรือลงทุนในดูไบมากนัก เนื่องจากดูไบเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศที่ใช้สำหรับในการต่อเครื่องบิน การซื้อขายน้ำมัน และด้านธุรกิจบริการเท่านั้น

รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ตอนนี้ ภาคเอกชนเป็นห่วงกรณีที่เวียดนามลดค่าเงินด่งลงมา 5.2% อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทยมากกว่า เพราะทำให้ความสามารถในการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการลดน้อยลง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอ อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ข้าว และอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมา ราคาสินค้าของเวียดนามมีราคาถูกกว่าไทยอยู่แล้ว 3-4% และหากลดค่าเงินดองครั้งนี้อีก จะทำให้สินค้ามีมูลค่าถูกกว่าถึง 10% อาจทำให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อจากเวียดนามแทน

ทั้งนี้ ภาคเอกชนคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะมีความกังวลมาก แต่ยืนยันว่า กรณีของเวียดนาม หากยังอยู่ในระดับนี้ภาคเอกชนยังสามารถรับได้ แต่หากมีการลดค่าเงินด่งมากกว่านี้ รัฐบาลคงจะต้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ

นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการกฎระเบียบและการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เชื่อว่า ปัญหาการเงินของดูไบที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับของสหรัฐฯ แต่อาจไม่รุนแรงเท่า เพราะเพิ่งเริ่มเกิดขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ ส่วนผลกระทบต่อการส่งออกของไทยหรือไม่ เชื่อว่าจะไม่รุนแรง

ส่วนปัญหาเรื่องการลดค่าเงินด่งของเวียดนาม เกิดจากการโจมตีค่าเงิน เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังไม่จบโดยเร็ว ซึ่งการลดค่าเงินดังกล่าว จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าของเวียดนามทำให้ราคาถูกลง ประกอบกับในวันที่ 1 มกราคม 2553 ที่จะมีการเปิดเสรีการค้า ทำให้สินค้าของเวียดนามและจีนอาจมาแย่งลูกค้าของไทยได้ ดังนั้นจึงเห็นว่ารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรต้องดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปกว่าระดับปัจจุบัน เพราะอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้
กำลังโหลดความคิดเห็น