ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ "ต่ออายุ" มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ที่จะหมดในสิ้นเดือนมีนาคมออกไปอีก 3 เดือน ประกอบด้วย "ค่าไฟฟ้าฟรี ค่าโดยสารรถเมล์ฟรี ค่าโดยสารรถไฟฟรี และตรึงราคาก๊าซหุงต้ม" แต่ "ไม่ต่ออายุ" ค่าน้ำประปาฟรี วันนี้ชื่อมาตรการฯ จึงเปลี่ยนเป็น "4 มาตรการ 3 เดือน"...ทราบแล้วเปลี่ยน...
การตัดสินใจเลิกอุ้มค่าประปา ทำให้มาตรการดังกล่าวเป็น "ประชานิยม" เพื่อคนส่วนใหญ่และรากหญ้า "กรณ์ จาติกวณิช" คาดว่า 3 เดือน (เม.ย.-พ.ค.) ที่ใช้มาตรการฯ รัฐบาลใช้งบประมาณแบกรับภาระเป็นเงินทั้งสิ้น 4,500 ล้าน...จิ๊บจ๊อยเมื่อเทียบกับคะแนนเสียงที่ได้รับ...
ส่วนมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ครบกำหนดสิ้นเดือนมีนาคมเช่นกัน ครม.วานนี้ (23 ก.พ.) ลงมติ "ไม่ต่ออายุ" ทั้งกระบิ "ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์" กางข้อมูลหลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 51 และได้ต่ออายุ ไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งจะสิ้นสุดในปลายเดือน มี.ค.53 พบว่าบริษัทที่ได้รับสิทธิลดภาษีภายใต้มาตรการดังกล่าว มีผลกำไรปรับตัวดีขึ้น และทำให้ภาพรวมยอดโอนอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นประมาณ 10% ขณะนี้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น "ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็น่าจะเติบโตได้ดี" จึงไม่มีความจำเป็นต้องคงมาตรการดังกล่าวเอาไว้...
"เห็นท่าจะจริง" เพราะก่อน ครม.จะลงมติเลิกมาตรการ หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พอทราบผลเป็นทางการ ทำท่าจะอ่อนตัวลงในช่วงบ่าย ไม่ทันถึง 5 นาที หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ดีดกลับมาเกือบทุกตัว เช่น ค่ายพฤกษา (PS)ปิดบวก 3.66% อยู่ที่ 17 บาท 16.30 บาท ศุภาลัย (SPALI) บวก 1.60% หรืออยู่ที่ 6.35 บาท ขณะที่แลนด์แอนด์เฮาส์ (LH) ยังยืนอยู่ที่ 5.85 บาทต่อหุ้น ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สงสัยที่ผ่านมา "ทำกำไรไว้อื้อ" การไม่ต่อมาตรการภาษีฯ ครั้งนี้จึง "จิ๊บจ๊อย"!!!...
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองว่า การที่รัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีฯ กระทบผู้ประกอบการไม่มาก แนวโน้มยังมีความสามารถในการทำกำไรยังสูง โดยเฉพาะที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะได้รับส่วนครองตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย...
ขณะที่ค่าย SC หรือ "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น" อาศัยฤกษ์ ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการฯ ประกาศกาศขึ้นราคาบ้านทันที "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บอกชัด SC จะปรับราคาขายบ้านขึ้นอีก 3-5 %!!!... เพราะการที่รัฐบาลไม่ต่อมาตรการภาษีฯ ผู้ประกอบการรายอื่นจะขึ้นราคาขายบ้านเช่นเดียวกัน...
ทบทวนข้อมูล กันลืม บริษัทนี้มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 93 ล้านหุ้น หรือ 29.13% อันดับ 2 "พินทองทา ชินวัตร" 92 ล้านหุ้น หรือ 28.97% อันดับ 3 "บรรณพจน์ ดามาพงศ์" 4.95% อันดับ 4 "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" 2.88% ใครยังเห็นว่าตระกูลนี้ยังรวยไม่พอ ช่วยไปซื้อบ้านของ SC หน่อย เร้วๆ!!..
ปิดท้ายความเคลื่อนไหวของแบงก์ชาติเพื่อความไม่ประมาท สั่งศูนย์จัดการธนบัตรและธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉินระบบการเงิน*สภาพคล่องช่วงวันที่ 26 ก.พ. แบงก์ต้องสำรองเงินสดเพิ่มและวางแผนกระจายธนบัตรไปยังสาขาและตู้เอทีเอ็ม ทั้ง 7 วัน ก่อนและหลัง วันพิพากษาคดียึดทรัพย์..รู้แล้ว จุ๊ๆ "ห้ามแตกตื่น" บ๋ายบายปู๊นๆ...
การตัดสินใจเลิกอุ้มค่าประปา ทำให้มาตรการดังกล่าวเป็น "ประชานิยม" เพื่อคนส่วนใหญ่และรากหญ้า "กรณ์ จาติกวณิช" คาดว่า 3 เดือน (เม.ย.-พ.ค.) ที่ใช้มาตรการฯ รัฐบาลใช้งบประมาณแบกรับภาระเป็นเงินทั้งสิ้น 4,500 ล้าน...จิ๊บจ๊อยเมื่อเทียบกับคะแนนเสียงที่ได้รับ...
ส่วนมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ครบกำหนดสิ้นเดือนมีนาคมเช่นกัน ครม.วานนี้ (23 ก.พ.) ลงมติ "ไม่ต่ออายุ" ทั้งกระบิ "ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์" กางข้อมูลหลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 51 และได้ต่ออายุ ไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งจะสิ้นสุดในปลายเดือน มี.ค.53 พบว่าบริษัทที่ได้รับสิทธิลดภาษีภายใต้มาตรการดังกล่าว มีผลกำไรปรับตัวดีขึ้น และทำให้ภาพรวมยอดโอนอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นประมาณ 10% ขณะนี้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น "ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็น่าจะเติบโตได้ดี" จึงไม่มีความจำเป็นต้องคงมาตรการดังกล่าวเอาไว้...
"เห็นท่าจะจริง" เพราะก่อน ครม.จะลงมติเลิกมาตรการ หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พอทราบผลเป็นทางการ ทำท่าจะอ่อนตัวลงในช่วงบ่าย ไม่ทันถึง 5 นาที หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ดีดกลับมาเกือบทุกตัว เช่น ค่ายพฤกษา (PS)ปิดบวก 3.66% อยู่ที่ 17 บาท 16.30 บาท ศุภาลัย (SPALI) บวก 1.60% หรืออยู่ที่ 6.35 บาท ขณะที่แลนด์แอนด์เฮาส์ (LH) ยังยืนอยู่ที่ 5.85 บาทต่อหุ้น ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สงสัยที่ผ่านมา "ทำกำไรไว้อื้อ" การไม่ต่อมาตรการภาษีฯ ครั้งนี้จึง "จิ๊บจ๊อย"!!!...
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองว่า การที่รัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการภาษีฯ กระทบผู้ประกอบการไม่มาก แนวโน้มยังมีความสามารถในการทำกำไรยังสูง โดยเฉพาะที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะได้รับส่วนครองตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย...
ขณะที่ค่าย SC หรือ "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น" อาศัยฤกษ์ ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการฯ ประกาศกาศขึ้นราคาบ้านทันที "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บอกชัด SC จะปรับราคาขายบ้านขึ้นอีก 3-5 %!!!... เพราะการที่รัฐบาลไม่ต่อมาตรการภาษีฯ ผู้ประกอบการรายอื่นจะขึ้นราคาขายบ้านเช่นเดียวกัน...
ทบทวนข้อมูล กันลืม บริษัทนี้มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 93 ล้านหุ้น หรือ 29.13% อันดับ 2 "พินทองทา ชินวัตร" 92 ล้านหุ้น หรือ 28.97% อันดับ 3 "บรรณพจน์ ดามาพงศ์" 4.95% อันดับ 4 "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" 2.88% ใครยังเห็นว่าตระกูลนี้ยังรวยไม่พอ ช่วยไปซื้อบ้านของ SC หน่อย เร้วๆ!!..
ปิดท้ายความเคลื่อนไหวของแบงก์ชาติเพื่อความไม่ประมาท สั่งศูนย์จัดการธนบัตรและธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉินระบบการเงิน*สภาพคล่องช่วงวันที่ 26 ก.พ. แบงก์ต้องสำรองเงินสดเพิ่มและวางแผนกระจายธนบัตรไปยังสาขาและตู้เอทีเอ็ม ทั้ง 7 วัน ก่อนและหลัง วันพิพากษาคดียึดทรัพย์..รู้แล้ว จุ๊ๆ "ห้ามแตกตื่น" บ๋ายบายปู๊นๆ...