ผู้ว่าการ รฟท.ประกาศเดินหน้าพัฒนาระบบรางปี 53 หลังได้งบลงทุนเพิ่มเป็น 1.5 แสนล้าน ลั่นพัฒนาระบบรางคู่ 767 กม. อัดงบอีก 400ล้าน ตั้งเครื่องกั้นจุดตัดมรณะ 100 จุดทั่วประเทศ ขณะที่บอร์ด รฟท.ไฟเขียวขยายอัตราเงินเดือน
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยแผนงานในปี 2553 โดยระบุว่า รฟท.จะเดินหน้าพัฒนาระบบรางอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณอย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้ จะมีโครงการสำคัญๆ ในการพัฒนาระบบรางเกิดขึ้นเช่น โครงการรถไฟเชื่อมต่อประเทศในกลุ่มอาเซียน สายบัวใหญ่-มหาสารคาม และร้อยเอ็ด-นครพนม-มุกดาหาร ที่จะเชื่อต่อไปยัง สปป.ลาว
นอกจากนี้ โครงการด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับได้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น จากวงเงิน 1 แสนล้านบาท เป็น 1.5 แสนล้านบาท ระหว่างปี 2553-2557 เพื่อพัฒนาระบบรถไฟทางคู่อีก 767 กิโลเมตร ซึ่งจะครอบคลุมการก่อสร้างราง ระบบล้อเลื่อน และอาณัติสัญญาณ
ส่วนการพัฒนาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ระบบราง และเส้นทางถนนที่เกี่ยวข้องเกิดจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนน ซึ่งรฟท.จะเร่งติดตั้งเครื่องกั้นหลังจากได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท โดยจะแก้ปัญหาจุดตัดในจุดสำคัญที่เคยเกิดอุบัติเหตุประมาณ 100 จุดทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้ปี 2553 เป็นปีแห่งความปลอดภัยการขนส่งคมนาคมทั่วประเทศ
ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้พนักงาน รฟท.ที่ร่วมปฏิบัติงานบริการประชาชน รวมทั้งจากปัญหาเดิมที่อัตราเงินเดือนของพนักงานที่ยังมีปัญหาไม่สมดุลนั้น ล่าสุดคณะกรรมการ รฟท.ที่มีนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานได้อนุมัติขยายอัตราเงินเดือนที่เต็มขั้นของพนักงานระดับ 8 เพิ่มขึ้นอีก 1 ขั้น และพนักงานระดับ 5 ที่เต็มขั้น เพิ่มขึ้นอีก 2 ขั้น โดยได้มีผลไปแล้ว ซึ่งการปรับปรุงคุณภาพชีวิต และสวัสดิการของพนักงาน รฟท.ทั่วประเทศนี้ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ตนได้ประกาศไว้นับจากวันแรกที่รับตำแหน่ง
