หลัง "บริษัททีพีไอ โพลีน" จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษา ***กระทำผิด*** พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ว่าด้วยการเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้ต่อตลาดหลักทรัพย์ ***ปั่นหุ้น*** จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ***วินิจฉัยการบังคับคดี*** ในการปรับเงินตามคำพิพากษาว่าจะต้องดำเนินการเมื่อคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว เท่านั้น ศาลอ่านคำพิพากษาแล้วเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) ***ยกคำร้อง***!!
ศาลพิเคราะห์ ***ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย** จึงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่พิพากษาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.50 ***ให้ปรับเงิน 6,900 ล้าน*** นอกจาก ทีพีไอโพลีนแล้ว "บริษัทสเติร์น สจ๊วต" จำเลยที่ 3 คดีสำนวนเดียวกันนี้ ก็ถูกศาลสั่งปรับเป็นเงิน 6,900 ล้าน ขณะนี้ รออัยการโจทก์ ไต่สวนสืบหาทรัพย์ของบริษัท ศาลนัดพร้อมคู่ความและไต่สวนสืบหาทรัพย์สิน วันที่ 22 ก.พ. 53...
ต้องไม่ลืมว่า "คดีปั่นหุ้นทีพีไอ" ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ในฐานะประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ทีพีไอโพลีน เป็นจำเลยที่ 2 "เชียรช่วง กัลยาณมิตร" กรรมการบริหาร สเติร์น สจ๊วต เป็นจำเลยที่ 4 คนละ 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา!! เห็น "ผู้รับมอบอำนาจทีพีไอ โพลีน" ยืนยันใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาต่อ...ว่ากันไป มองดูแล้ว ค่าปรับคดีนี้คงไม่ถึงรายละ 6,900 ล้าน หากจำเลยไม่มีพฤติกรรมน่าหมั่นไส้!!
ไปกันอีกคดี "ซื้อขายที่ดินรัชดา" ศาลนัดไต่สวนคำร้องคุ้มครองชั่วคราวที่กองทุนฟื้นฟูขอ "ให้ศาล" ห้าม ***คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร*** โอนขายที่ดินรัชดา-สั่งเพิกถอนการจดทะเบียน-ให้ส่งมอบที่ดินคืนกองทุนฟื้นฟู แม้เป็นไปตามขั้นตอนหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาออกมา กองทุนฟื้นฟูต้องยื่นศาลเพื่อความชัวร์...
ทนายความคุณหญิงพจมานพยายามซักถามพยานโจทก์ คนของกองทุนฟื้นฟู อยู่นาน ทนายความคุณหญิงพจมานอ้างว่าหลังซื้อที่ดิน จำเลยยังไม่เคยทำประโยชน์ในที่ดินพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากกองทุนฟื้นฟูเรียกคืนแล้วก็จะนำไปขายอีก ปรากฏว่าคนของกองทุนฟื้นฟูอึกอักบอกมีหน้าที่ร้องศาล ไม่มีหน้าที่อธิบาย ประกอบกับทนายคุณหญิงฯแถลงต่อศาลว่ามีพยานจะนำเข้าไต่สวน 1 ปาก เรื่องจึงไม่จบ ศาลพิจารณาแล้วนัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 25 ม.ค.53 บ่ายโมงครึ่ง!!
ทนายความคุณหญิงพจมาน คนนั้นคือ "ฉัตรทิพย์ ตัณฑประสาสน์" ซึ่งบอกนักข่าวด้วยว่า วันนี้ (22 ธ.ค.) ทีมทนายความมีความพร้อมเต็มที่ในการซักค้านพยานในการไต่สวนพยานอัยการ 2 ปากสุดท้าย คดียึดทรัพย์ทักษิณ และครอบครัว 7.6 หมื่นล้านบาท ปากดีอย่างนี้ ต้องจับตาดูเนื้อหาในศาลจากพยานชื่อ "สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีต รมว.การต่างประเทศ กับ "กล้านรงค์ จันทิก" อดีต คตส.!!
ปิดท้ายกันที่ ***สัญญาทาส*** ค่าผ่านทางดอนเมืองโทลเวย์ ที่จะมีการขึ้นราคาจาก 35 เป็น 60 บาท มีผลวันนี้วันแรก!!!
***โสภณ ซาเล้ง*** รมว.คมนาคม ลั่น หากรัฐไปขัดขวางอาจถูกฟ้อง...งี่เง่าจริงๆ นักการเมืองในคราบรัฐมนตรี ***พูดแทนเอกชน*** เช่นกัน "ศุภชัย ใจสมุทร" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ อ้างในวันที่ 15 ธ.ค. วันที่ ครม.มาร์คไฟเขียว "ศุภชัย" อ้างว่า รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ ทั้งคู่อยู่พรรคภูมิใจไทย พรรคที่ได้ประโยชน์จากการขึ้นค่าผ่านทาง ส่วนเอกชน วันนี้ยังไม่มีความเห็นเรื่องการฟ้องร้อง!!
อ้อ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 52 ครม.ชุดนี้พรรคนี้ ต่อสัญญาสัมปทานดอนเมืองโทลเวย์ ออกไปอีกอย่างน้อย 17 ปี ให้เหตุผลเพื่อชดเชยการขาดทุนพร้อมให้ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วนดินแดง-ดอนเมือง จาก 20 บาทเป็น 35 บาท ***หลังจากนั้นจะมีการปรับขึ้นราคาทุก 5 ปี สูงสุดที่ 100 บาทตลอดสาย***เนวินจริงๆ...
ศาลพิเคราะห์ ***ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย** จึงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นที่พิพากษาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.50 ***ให้ปรับเงิน 6,900 ล้าน*** นอกจาก ทีพีไอโพลีนแล้ว "บริษัทสเติร์น สจ๊วต" จำเลยที่ 3 คดีสำนวนเดียวกันนี้ ก็ถูกศาลสั่งปรับเป็นเงิน 6,900 ล้าน ขณะนี้ รออัยการโจทก์ ไต่สวนสืบหาทรัพย์ของบริษัท ศาลนัดพร้อมคู่ความและไต่สวนสืบหาทรัพย์สิน วันที่ 22 ก.พ. 53...
ต้องไม่ลืมว่า "คดีปั่นหุ้นทีพีไอ" ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ในฐานะประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ทีพีไอโพลีน เป็นจำเลยที่ 2 "เชียรช่วง กัลยาณมิตร" กรรมการบริหาร สเติร์น สจ๊วต เป็นจำเลยที่ 4 คนละ 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา!! เห็น "ผู้รับมอบอำนาจทีพีไอ โพลีน" ยืนยันใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาต่อ...ว่ากันไป มองดูแล้ว ค่าปรับคดีนี้คงไม่ถึงรายละ 6,900 ล้าน หากจำเลยไม่มีพฤติกรรมน่าหมั่นไส้!!
ไปกันอีกคดี "ซื้อขายที่ดินรัชดา" ศาลนัดไต่สวนคำร้องคุ้มครองชั่วคราวที่กองทุนฟื้นฟูขอ "ให้ศาล" ห้าม ***คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร*** โอนขายที่ดินรัชดา-สั่งเพิกถอนการจดทะเบียน-ให้ส่งมอบที่ดินคืนกองทุนฟื้นฟู แม้เป็นไปตามขั้นตอนหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาออกมา กองทุนฟื้นฟูต้องยื่นศาลเพื่อความชัวร์...
ทนายความคุณหญิงพจมานพยายามซักถามพยานโจทก์ คนของกองทุนฟื้นฟู อยู่นาน ทนายความคุณหญิงพจมานอ้างว่าหลังซื้อที่ดิน จำเลยยังไม่เคยทำประโยชน์ในที่ดินพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากกองทุนฟื้นฟูเรียกคืนแล้วก็จะนำไปขายอีก ปรากฏว่าคนของกองทุนฟื้นฟูอึกอักบอกมีหน้าที่ร้องศาล ไม่มีหน้าที่อธิบาย ประกอบกับทนายคุณหญิงฯแถลงต่อศาลว่ามีพยานจะนำเข้าไต่สวน 1 ปาก เรื่องจึงไม่จบ ศาลพิจารณาแล้วนัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 25 ม.ค.53 บ่ายโมงครึ่ง!!
ทนายความคุณหญิงพจมาน คนนั้นคือ "ฉัตรทิพย์ ตัณฑประสาสน์" ซึ่งบอกนักข่าวด้วยว่า วันนี้ (22 ธ.ค.) ทีมทนายความมีความพร้อมเต็มที่ในการซักค้านพยานในการไต่สวนพยานอัยการ 2 ปากสุดท้าย คดียึดทรัพย์ทักษิณ และครอบครัว 7.6 หมื่นล้านบาท ปากดีอย่างนี้ ต้องจับตาดูเนื้อหาในศาลจากพยานชื่อ "สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีต รมว.การต่างประเทศ กับ "กล้านรงค์ จันทิก" อดีต คตส.!!
ปิดท้ายกันที่ ***สัญญาทาส*** ค่าผ่านทางดอนเมืองโทลเวย์ ที่จะมีการขึ้นราคาจาก 35 เป็น 60 บาท มีผลวันนี้วันแรก!!!
***โสภณ ซาเล้ง*** รมว.คมนาคม ลั่น หากรัฐไปขัดขวางอาจถูกฟ้อง...งี่เง่าจริงๆ นักการเมืองในคราบรัฐมนตรี ***พูดแทนเอกชน*** เช่นกัน "ศุภชัย ใจสมุทร" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ อ้างในวันที่ 15 ธ.ค. วันที่ ครม.มาร์คไฟเขียว "ศุภชัย" อ้างว่า รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ ทั้งคู่อยู่พรรคภูมิใจไทย พรรคที่ได้ประโยชน์จากการขึ้นค่าผ่านทาง ส่วนเอกชน วันนี้ยังไม่มีความเห็นเรื่องการฟ้องร้อง!!
อ้อ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 52 ครม.ชุดนี้พรรคนี้ ต่อสัญญาสัมปทานดอนเมืองโทลเวย์ ออกไปอีกอย่างน้อย 17 ปี ให้เหตุผลเพื่อชดเชยการขาดทุนพร้อมให้ปรับขึ้นราคาค่าทางด่วนดินแดง-ดอนเมือง จาก 20 บาทเป็น 35 บาท ***หลังจากนั้นจะมีการปรับขึ้นราคาทุก 5 ปี สูงสุดที่ 100 บาทตลอดสาย***เนวินจริงๆ...
