xs
xsm
sm
md
lg

“ทีพีไอโพลีน” แพ้ซ้ำสอง! ยกคำร้องขอส่งศาล รธน.ชี้ขาดค่าปรับ 6.9 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.ทีพีไอโพลีน
ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง “ทีพีไอ โพลีน” จำเลยคดีปั่นหุ้น ขอส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการบังคับคดีบริษัทชำระค่าปรับ 6.9 พันล้าน ไม่มีเหตุจำเป็น ด้านศาลอาญานัดไต่สวนหาทรัพย์บริษัท สเติร์นฯ จำเลยร่วม เพื่อใช้ชำระค่าปรับ 22 ก.พ.ปีหน้า

วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 810 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 คดีกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ในการเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้ต่อตลาดหลักทรัพย์ หรือการปั่นหุ้นทีพีไอ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.50 ให้ปรับเงินจำนวน 6,900,300,000 บาท ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการบังคับคดีในการปรับเงินตามคำพิพากษาว่าจะต้องดำเนินการเมื่อคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว

โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จึงมีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้น ยกคำร้อง

ขณะที่ผู้รับมอบอำนาจ บมจ.ทีพีไอ กล่าวว่า เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ตามกฎหมายยังใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาได้ต่อไป ส่วนศาลจะมีคำสั่งอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราใช้ช่องทางตามกฎหมายที่มีอยู่ เพราะเห็นว่าการบังคับคดีต้องรอให้คดีหลักถึงที่สุดก่อน โดยก่อนหน้านี้ บมจ.ทีพีไอ ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งยกคำร้องและให้การบังคับคดีเป็นไปตามกระบวนการศาลชั้นต้น

อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการไต่สวนเพื่อสืบหาทรัพย์สินการบังคับคดีนี้ ขณะนี้ยังต้องรออัยการโจทก์ ไต่สวนสืบหาทรัพย์ของบริษัท สเติร์น สจ๊วต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 3 คดีสำนวนเดียวกันนี้ ซึ่งศาลสั่งปรับเป็นเงิน 6,900,300,000 บาท เช่นเดียวกัน โดยศาลชั้นต้น นัดพร้อมคู่ความและไต่สวนสืบหาทรัพย์สิน บมจ.สเติร์น ในวันที่ 22 ก.พ. 53 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีปั่นหุ้นทีพีไอนั้น ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษานายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.ทีพีไอโพลีน และนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บริษัท สเติร์น สจ๊วต จำเลยที่ 2 และ 4 คนละ 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งปรับ 2 บริษัทดังกล่าว รายละ 6,900,300,000 บาท ขณะที่คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น