อานิสงส์ค่าเงินยูโรแข็ง ผู้ประกอบการโรงแรมกระหน่ำโปรโมชัน ทุย นอร์ดิกรับทรัพย์ โกยนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวียเข้าภูเก็ต รับไฮซีซันปีนี้ 1.2 แสนคน เท่าปี 2550 โกยรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมกระหน่ำแคมเปญยาวถึงซัมเมอร์ปีหน้า แย้มบริษัทแม่ ซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 26 ลำ จึงเล็งขยายเส้นทางบิน ลงสุราษฎร์ปีหน้า โกยนักท่องเที่ยวตลอดซัมเมอร์อีก 1.65 หมื่นคน วางเป้าหมาย 2 ปีเติบโตอีก 50%
นายคริสเตียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทียูไอ นอร์ดิก (TUI Nordic) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากตลาดสแกนดิเนเวีย และยุโรป ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงไฮซีซันปีนี้ (ธ.ค.52-มี.ค.53) มีแนวโน้มที่ดี โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะดีต่อเนื่องถึงช่วงซัมเมอร์และโลว์ซีซัน ในปีหน้า (เม.ย.-ต.ค.53) เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวเริ่มมีสัญญาการฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว ประกอบกับ ค่าเงินของประเทศในกลุ่มดังกล่าวเริ่มแข็งขึ้นราว 10% ทำให้สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ในราคาที่ไม่แพง เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ค่าเงินในยุโรปอ่อนตัวราว 20% ทำให้การเลือกที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเป็นเส้นทางระยะไกล จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก
สำหรับปีนี้ บริษัทยังได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการโรงแรม จัดโปรโมชัน ลด และแถม ห้องพัก ทำให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยถูกกว่าปีก่อนราว 10% จึงทำให้บริษัทสามารถนำส่วนลดนี้ไปจัดโปรโมชัน สร้างเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ตลาดมีการตอบรับดี บริษัทจึงเตรียมเพิ่มเครื่องบินจาก 3 ลำ เป็น 4 ลำสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้อีก 1 หมื่นที่นั่ง ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ โดยจะรับลูกค้าบินตรงมาลงที่สนามบินภูเก็ตและกระบี่ได้สัปดาห์ละ 34 เที่ยวบิน ทำให้ TUI Nordic สามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้ราว 120,000 คน เท่ากับปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเติบโตดี และสร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเครื่องที่จะเพิ่มอีก 1 ลำ เป็น โบอิ้ง 767โดยจะเริ่มพานักท่องเที่ยวมาภูเก็ตในระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.52-5 มี.ค.53
นายคริสเตียน กล่าวว่า จากความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน ที่ส่งเสริมให้ตลาดเติบโต บริษัทแม่จึงเตรียมลงทุนเพิ่มด้วยการสั่งซื้อฝูงบินอีกราว 26 ลำ เป็นเครื่องโบอิ้ง 787 เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจัดซื้อโดยบริษัท TUI PCL จากแผนดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ TUI Nordicตั้งเป้าในอีก 2 ปีข้างหน้า จะนำนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบัน หรือคิดเป็นจำนวนราว 1.6 แสนคน ภายในปี 2011 โดยบริษัทจะเพิ่มโปนแกรมท่องเที่ยว เพื่อให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มเส้นทาง สุราษฎณ์(เกาะสมุย) ส่วนประเทศต้นทางก็จะเพิ่มเที่ยวบินตรงจากประเทศอังกฤษด้วย
ปัจจุบันถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทาง สำหรับนักท่องเที่ยวจากตลาดสแกน และยุโรปได้ตลอดทั้งปี ด้วยความร่วมมือจากภาคการท่องเที่ยว และหน่วยงานภาครัฐของไทย สำหรับฤดูร้อนปี 2553 อัตราการขยายตัวของธุรกิจจะเพิ่มขึ้นจากฤดูร้อนปีนี้ที่กำลังจะจบลงในสิ้นเดือน ต.ค.52 อีก10% จากปีนี้ซึ่งกำลังจะจบลงในเดือน ต.ค.52 ปิดการขายได้ถึง 99% คือเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านบริษัทเรา 1.5 หมื่นคน จะเพิ่มเป็น 1.65 หมื่นคนในปีหน้า แต่ก็ยอมรับว่าชาวงเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นเดือนที่ลำบากมาก สถานการณ์จึงบังคับให้เราต้องลดราคาลงจำนวนมาก แต่ผลการตอบรับที่ออกมาก็ค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่า ในปีหน้าจะปรับขึ้นราคาค่าบริการหรือไม่ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่าเร็วเกินไปที่จะตอบเรื่องการปรับขึ้นราคา แต่เชื่อว่าทุกอย่างคงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ คือ หากโรงแรมปรับขึ้นราคา ทัวร์ของเราก็ต้องปรับขึ้นราคาด้วยเช่นกัน
นายคริสเตียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทียูไอ นอร์ดิก (TUI Nordic) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากตลาดสแกนดิเนเวีย และยุโรป ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยช่วงไฮซีซันปีนี้ (ธ.ค.52-มี.ค.53) มีแนวโน้มที่ดี โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะดีต่อเนื่องถึงช่วงซัมเมอร์และโลว์ซีซัน ในปีหน้า (เม.ย.-ต.ค.53) เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าวเริ่มมีสัญญาการฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว ประกอบกับ ค่าเงินของประเทศในกลุ่มดังกล่าวเริ่มแข็งขึ้นราว 10% ทำให้สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ในราคาที่ไม่แพง เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ค่าเงินในยุโรปอ่อนตัวราว 20% ทำให้การเลือกที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเป็นเส้นทางระยะไกล จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก
สำหรับปีนี้ บริษัทยังได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการโรงแรม จัดโปรโมชัน ลด และแถม ห้องพัก ทำให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยถูกกว่าปีก่อนราว 10% จึงทำให้บริษัทสามารถนำส่วนลดนี้ไปจัดโปรโมชัน สร้างเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ตลาดมีการตอบรับดี บริษัทจึงเตรียมเพิ่มเครื่องบินจาก 3 ลำ เป็น 4 ลำสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้อีก 1 หมื่นที่นั่ง ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ โดยจะรับลูกค้าบินตรงมาลงที่สนามบินภูเก็ตและกระบี่ได้สัปดาห์ละ 34 เที่ยวบิน ทำให้ TUI Nordic สามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้ราว 120,000 คน เท่ากับปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเติบโตดี และสร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเครื่องที่จะเพิ่มอีก 1 ลำ เป็น โบอิ้ง 767โดยจะเริ่มพานักท่องเที่ยวมาภูเก็ตในระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.52-5 มี.ค.53
นายคริสเตียน กล่าวว่า จากความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน ที่ส่งเสริมให้ตลาดเติบโต บริษัทแม่จึงเตรียมลงทุนเพิ่มด้วยการสั่งซื้อฝูงบินอีกราว 26 ลำ เป็นเครื่องโบอิ้ง 787 เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจัดซื้อโดยบริษัท TUI PCL จากแผนดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ TUI Nordicตั้งเป้าในอีก 2 ปีข้างหน้า จะนำนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบัน หรือคิดเป็นจำนวนราว 1.6 แสนคน ภายในปี 2011 โดยบริษัทจะเพิ่มโปนแกรมท่องเที่ยว เพื่อให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มเส้นทาง สุราษฎณ์(เกาะสมุย) ส่วนประเทศต้นทางก็จะเพิ่มเที่ยวบินตรงจากประเทศอังกฤษด้วย
ปัจจุบันถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทาง สำหรับนักท่องเที่ยวจากตลาดสแกน และยุโรปได้ตลอดทั้งปี ด้วยความร่วมมือจากภาคการท่องเที่ยว และหน่วยงานภาครัฐของไทย สำหรับฤดูร้อนปี 2553 อัตราการขยายตัวของธุรกิจจะเพิ่มขึ้นจากฤดูร้อนปีนี้ที่กำลังจะจบลงในสิ้นเดือน ต.ค.52 อีก10% จากปีนี้ซึ่งกำลังจะจบลงในเดือน ต.ค.52 ปิดการขายได้ถึง 99% คือเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านบริษัทเรา 1.5 หมื่นคน จะเพิ่มเป็น 1.65 หมื่นคนในปีหน้า แต่ก็ยอมรับว่าชาวงเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นเดือนที่ลำบากมาก สถานการณ์จึงบังคับให้เราต้องลดราคาลงจำนวนมาก แต่ผลการตอบรับที่ออกมาก็ค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่า ในปีหน้าจะปรับขึ้นราคาค่าบริการหรือไม่ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่าเร็วเกินไปที่จะตอบเรื่องการปรับขึ้นราคา แต่เชื่อว่าทุกอย่างคงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ คือ หากโรงแรมปรับขึ้นราคา ทัวร์ของเราก็ต้องปรับขึ้นราคาด้วยเช่นกัน