ดุสิตโพล ชี้ คนไทยเกือบ 60% ต้องการให้ลดภาษีสรรพสามิต 53.54% ต้องการให้ผู้ค้าน้ำมันลดค่าการตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพง ไม่มั่นใจหมัดแรกลดราคาดีเซล 2 บาท จะแก้ปัญหาได้จริง โดยความเห็นสูงถึง 75.40% ต้องการให้ลดราคาน้ำมันเบนซินทุกประเภท
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เรื่อง “คนไทย” กับ “พลังงานราคาแพง” โดยสำรวจจากความคิดเห็นของประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 1,143 คน ระหว่างวันที่ 11-13 สิงหาคม 2552 ภายหลัง กระทรวงพลังงาน ออกมาตรการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสนอให้ลดการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันและกองทุนอนุรักษ์พลังงานในส่วนของดีเซลลิตรละ 2 บาท พร้อมให้ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) รวมถึงค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (FT) ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2553 เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน
โดยผลการสำรวจความเห็นประชาชน ระบุว่า ผลกระทบที่เกิดจากราคาน้ำมันปัจจุบันมากที่สุดร้อยละ 39.76 ระบุ มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นร้อยละ 26.38 ทำให้ต้องประหยัด รองลงมาร้อยละ 11.81 ทำให้ต้องหันไปใช้บริการสาธารณะมากขึ้น ขณะที่ราคาประเภทน้ำมันที่ประชาชนเห็นว่า ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือร้อยละ 49.06 คือ ราคาน้ำมันพืช รองลงมา คือ ราคาก๊าซเอ็นจีวี ร้อยละ 39.60
สำหรับประเด็นที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) มีมติให้ลดจำนวนเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซล B2 ถูกลง 2 บาทต่อลิตร และ B5 ถูกลง ประชาชนคิดว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น พบว่า ร้อยละ 39.02 ระบุไม่แน่ใจว่า เงินที่ส่งเข้ากองทุน จะนำออกมาใช้ประโยชน์ได้จริงมากน้อยเพียงใด และเป็นเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นอาจมีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้นเหมือนเดิม รองลงมาร้อยละ 34.96 เห็นว่าเหมาะสม เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และมีร้อยละ 26.02 เห็นว่า ไม่เหมาะสม เพราะควรลดราคาน้ำมันทุกประเภท
ส่วนความเห็นว่า นอกเหนือจากการลดราคาน้ำมันดีเซลแล้ว กพช.ควรจะมีมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซินทุกประเภทหรือไม่ พบว่า มีประชาชนสูงถึงร้อยละ 75.40 เห็นว่าควรมีการลดราคาน้ำมันเบนซินทุกประเภท และคำถามว่ารัฐบาลควรใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเดิมเหมือนที่ผ่านมา เพื่อทำให้ราคาน้ำมันดีเซลและเบนซินถูกลงหรือไม่ ประชาชนร้อยละ 59.68 เห็นว่าสมควร เพราะช่วยให้ต้นทุนของราคาน้ำมันถูกลงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีกำลังในการใช้จ่ายอย่างสะดวกมากขึ้น อันดับ 2 ร้อยละ 28.22 ไม่แน่ใจ เพราะอาจเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น สำหรับมาตรการอื่นๆ นั้น อันดับ 1 ร้อยละ 53.54 ประชาชนเห็นว่าควรผลักดันให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันลดค่าการตลาด
ขณะที่ความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลที่มีนโยบายตรึงราคาก๊าซ LPG ก๊าซ NGV และอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) เป็นระยะเวลา 1 ปี ประชาชนร้อยละ 58.26 เห็นด้วย เพราะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน สนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นอีก 1 ปีข้างหน้า ร้อยละ 24.35 ไม่แน่ใจ เพราะหลังจาก 1 ปี ไปแล้วไม่ทราบว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นอย่างไร ส่วนมาตรการอื่นๆ ในการแก้ปัญหาพลังงาน น้ำมันราคาแพง เช่นร้อยละ 34.24 เร่งผลักดันพลังงานทดแทนทุกประเภทอย่างเร่งด่วน ร้อยละ 33.15 รณรงค์ให้ประชาชนประหยัดพลังงานและร้อยละ 27.17 เร่งก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ เป็นต้น
