รมว.คลัง ห่วงน้ำมันแพงทำธุรกิจชะงัก เผยหากน้ำมันโลกพุ่งถึง 70-80 ดอลลาร์/บาเรล พร้อมพิจารณาปรับลดภาษีน้ำมัน ยันพร้อมชี้แจงสภาฯ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รัฐบาลอาจจะทบทวนการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชนและผู้ประกอบการในด้านการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนอย่างมาก เพราะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน ขณะเดียวกัน รัฐบาลพร้อมชี้แจงต่อสภาในกรณีการนำ พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต เข้าสู่การประชุมสภาสมัยวิสามัญในเดือนสิงหาคม 2552 นี้
พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2552 ได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพียง 170,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่ารายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย 280,000-300,000 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้กรณีรัฐบาลนำเงินกู้จากการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพ.ร.บ.เงินกู้เงินรวม 800,000 ล้านบาท มาปิดงบประมาณขาดดุลน้อยลง ซึ่งรัฐบาลจะนำงบประมาณส่วนนี้ มาใช้ลงทุนให้กับประชาชนเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปในอนาคต
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 นั้น ขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังจัดทำรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม 2552นี้ จากนั้นจะนำเงินลงทุนเข้าสู่โครงการต่างๆ ได้ในเดือนตุลาคม 2552 นี้ โดยเฉพาะหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติปรับปรุงรายละเอียดการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ็อกชั่น) โดยเร่งเวลาให้เร็วขึ้นสำหรับโครงการที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลเร่งลงมือเดินหน้าโครงการต่างๆ ได้เดือนตุลาคม 2552 นี้
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รัฐบาลอาจจะทบทวนการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชนและผู้ประกอบการในด้านการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนอย่างมาก เพราะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน ขณะเดียวกัน รัฐบาลพร้อมชี้แจงต่อสภาในกรณีการนำ พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต เข้าสู่การประชุมสภาสมัยวิสามัญในเดือนสิงหาคม 2552 นี้
พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2552 ได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพียง 170,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่ารายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย 280,000-300,000 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้กรณีรัฐบาลนำเงินกู้จากการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพ.ร.บ.เงินกู้เงินรวม 800,000 ล้านบาท มาปิดงบประมาณขาดดุลน้อยลง ซึ่งรัฐบาลจะนำงบประมาณส่วนนี้ มาใช้ลงทุนให้กับประชาชนเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปในอนาคต
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 นั้น ขณะนี้สำนักงบประมาณกำลังจัดทำรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม 2552นี้ จากนั้นจะนำเงินลงทุนเข้าสู่โครงการต่างๆ ได้ในเดือนตุลาคม 2552 นี้ โดยเฉพาะหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติปรับปรุงรายละเอียดการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ็อกชั่น) โดยเร่งเวลาให้เร็วขึ้นสำหรับโครงการที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลเร่งลงมือเดินหน้าโครงการต่างๆ ได้เดือนตุลาคม 2552 นี้
