นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่า กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการจัดทำแผนการกู้เงินภายในประเทศ โดยการออกพันธบัตรให้กับประชาชนจำนวน 50,000 ล้านบาท จะเริ่มจำหน่ายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะแบ่งการขายออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกจำนวน 15,000 ล้านบาท ช่วงที่ 2 จำนวน 15,000 ล้านบาท และช่วงที่ 3 จำนวน 20,000 ล้านบาท ซึ่งหลักสำคัญคือ ในช่วงแรกจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี มีโอกาสจองพันธบัตรก่อน ถือเป็นทางเลือกในการออมให้กับประชาชนที่จะให้ผลตอบแทนมากขึ้นในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะมีแบ่งการให้ดอกเบี้ยออกเป็นช่วงๆ โดย 2 ปีแรกจะมีดอกเบี้ยร้อยละ 3 ถัดมาเป็นร้อยละ 4 และร้อยละ 5 ตามลำดับ ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะประชาสัมพันธ์รายละเอียดให้กับประชาชนต่อไป
ส่วนกรณีที่วุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบพระราชกำหนดแก้ไขพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีความเข้าใจในสมาชิกวุฒิสภาเป็นอย่างดีที่กังวลว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน ซึ่งได้ย้ำว่า นับตั้งแต่ที่มีการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รัฐบาลยังไม่ได้มีการส่งต่อภาระภาษีไปยังประชาชน แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเกิดขึ้นจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาก
ส่วนกรณีที่วุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบพระราชกำหนดแก้ไขพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีความเข้าใจในสมาชิกวุฒิสภาเป็นอย่างดีที่กังวลว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน ซึ่งได้ย้ำว่า นับตั้งแต่ที่มีการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รัฐบาลยังไม่ได้มีการส่งต่อภาระภาษีไปยังประชาชน แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเกิดขึ้นจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาก