“กรณ์” แจงต้นเหตุน้ำมันแพง โต้วุฒิสภาคว่ำ กม.ขึ้นภาษีน้ำมัน

“กรณ์” ไม่ท้อ หลังวุฒิสภาคว่ำ กม.รีดภาษีน้ำมัน ยันเดินหน้าชงเข้าสภาอีกรอบ ในสมัยหน้า พร้อมแจงการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะได้ปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ชี้ราคาขายปลีกหน้าปั๊มที่สูงขึ้นเกิดจากผลกระทบราคาในตลาดโลก โดยเปรียบเทียบช่วงที่ราคาทะลุ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล ในปีก่อน ราคาขายปลีกอยู่ที่ลิตรละ 40 บาท และปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาขายปลีกอยู่ที่ลิตรละ 30 บาท

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกรณ์ จาติกวณิช ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากการเพิ่มภาษีน้ำมัน และมีผลให้วุฒิสภาคว่ำ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต โดยระบุว่า เมื่อรัฐบาลมีการเพิ่มภาษีสรรพสามิต ก็จะปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะเท่ากับพิกัดอัตราภาษี พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาการปรับภาษีไม่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ เป็นไปตามกลไกราคาน้ำมันในตลาดโลก เพราะเมื่อราคาตลาดโลกสูงขึ้น ก็ย่อมส่งผลต่อราคาหน้าปั้มของเราที่ต้องสูงตาม

ทั้งนี้ รมว.คลัง ยังคงยืนยันตามมติเดิมของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมระบุว่าเป็นหน้าที่ของสภาฯ ที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง และยืนยันว่ารัฐบาลจะนำเข้าสู่การพิจารณาทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุม เมื่อถามว่าในอนาคตถ้ามีการเพิ่มค่าครองชีพ จะนำเรื่องภาษีน้ำมันมาช่วยด้วยหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า ต้องพิจารณาทบทวนให้รอบคอบ เพราะการตัดเรื่องดังกล่าวออกจากโครงการ 6 เดือน 6 มาตรการช่วยประชาชน ขณะนั้นราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ที่ 140 ดอลลาร์ต่อต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ ระดับราคาขึ้นๆ ลงๆ อยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า เหมาะสมอย่างไร

“ถ้ารัฐบาลประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่า จำเป็นต้องมีการช่วยเหลือด้วยการลดภาษี เราก็ต้องพิจารณา ไม่ได้ดื้อรั้น แต่เราก็ไม่อยากให้ราคาน้ำมันถูกเกินไป จนทำให้ประชาชนใช้จ่ายพลังงานอย่างฟุ่มเฟือย” รมว.คลัง สรุปทิ้งท้าย