ซีพีเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในจีน ไม่หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจ โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ หัวหอกสำคัญในการลงทุนฉลองครบรอบ 12 ปี ประกาศวิสัยทัศน์สู่การเป็นร้านค้าปลีกตอบสนองการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ พร้อมเนรมิตโลตัส โฉมใหม่ ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ไว้ที่ 64,500 ล้านบาท
การลงทุนในต่างประเทศของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ยังคงเดินหน้าต่อไปท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกของซีพี ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีกิจการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ภายใต้ชื่อ โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นหัวหอกในการลงทุน นายจิม ฮาเวิร์ธ ประธานกรรมการ บริษัท โลตัส เซี่ยงไฮ้ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์เชนสโตร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันโลตัสดำเนินกิจการค้าปลีกในจีนมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว และถือว่า 12 ปีที่ผ่านมา เป็นหลักไมล์ที่สำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตในก้าวย่างต่อไปของโลตัสในจีน พร้อมกันนี้ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ให้โลตัส เป็นร้านค้าปลีกที่ตอบสนองการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ ภายใต้ปรัชญาที่ว่าลูกค้ามีความสำคัญเป็นอันดับ 1 หรือ Customers come first
ในการนี้ นายจิม ฮาเวิร์ธ ได้วางกลยุทธ์ 3 ประการเพื่อก้าวสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จตามที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ประการแรก คือ การปรับโฉมใหม่ของโลตัสทั้งรูปแบบของร้านค้า รวมไปถึงสินค้าและบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งใช้เงินลงทุนในการดำเนินงานครั้งนี้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อสาขา กลยุทธ์ประการต่อมา คือ เน้นการบริการที่เป็นเลิศ โดยบูรณาการการทำงานของทุกแผนกเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อลูกค้า และประการสุดท้าย คือ พัฒนาบุคลากรโดยมีเป้าหมายให้เติบโตก้าวหน้าไปพร้อมกับโลตัส
ปัจจุบันซีพีในจีน มีกิจการโลตัสกระจายอยู่ทั่วประเทศจีน รวม 76 สาขา และศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง ให้บริการลูกค้ามากกว่า 300 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดขายปี 2552 คาดว่า จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิม 13% หรือมียอดขายประมาณ 64,500 ล้านบาท
อนึ่ง ภาคธุรกิจค้าปลีกโดยรวมของจีนเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6 จากปีก่อน โดยมีมูลค่าค้าปลีกทะลุ 50 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ วิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลให้ยอดค้าปลีกจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย และได้กระเตื้องสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่า ยอดค้าปลีกในจีนปี 2552 จะเติบโตชะลอเหลือร้อยละ 19
การลงทุนในต่างประเทศของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ยังคงเดินหน้าต่อไปท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกของซีพี ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีกิจการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ภายใต้ชื่อ โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นหัวหอกในการลงทุน นายจิม ฮาเวิร์ธ ประธานกรรมการ บริษัท โลตัส เซี่ยงไฮ้ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์เชนสโตร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ปัจจุบันโลตัสดำเนินกิจการค้าปลีกในจีนมาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว และถือว่า 12 ปีที่ผ่านมา เป็นหลักไมล์ที่สำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตในก้าวย่างต่อไปของโลตัสในจีน พร้อมกันนี้ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ให้โลตัส เป็นร้านค้าปลีกที่ตอบสนองการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ ภายใต้ปรัชญาที่ว่าลูกค้ามีความสำคัญเป็นอันดับ 1 หรือ Customers come first
ในการนี้ นายจิม ฮาเวิร์ธ ได้วางกลยุทธ์ 3 ประการเพื่อก้าวสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จตามที่ได้ประกาศวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ประการแรก คือ การปรับโฉมใหม่ของโลตัสทั้งรูปแบบของร้านค้า รวมไปถึงสินค้าและบริการเพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งใช้เงินลงทุนในการดำเนินงานครั้งนี้ประมาณ 50 ล้านบาทต่อสาขา กลยุทธ์ประการต่อมา คือ เน้นการบริการที่เป็นเลิศ โดยบูรณาการการทำงานของทุกแผนกเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อลูกค้า และประการสุดท้าย คือ พัฒนาบุคลากรโดยมีเป้าหมายให้เติบโตก้าวหน้าไปพร้อมกับโลตัส
ปัจจุบันซีพีในจีน มีกิจการโลตัสกระจายอยู่ทั่วประเทศจีน รวม 76 สาขา และศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่ง ให้บริการลูกค้ามากกว่า 300 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดขายปี 2552 คาดว่า จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิม 13% หรือมียอดขายประมาณ 64,500 ล้านบาท
อนึ่ง ภาคธุรกิจค้าปลีกโดยรวมของจีนเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6 จากปีก่อน โดยมีมูลค่าค้าปลีกทะลุ 50 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ วิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลให้ยอดค้าปลีกจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย และได้กระเตื้องสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่า ยอดค้าปลีกในจีนปี 2552 จะเติบโตชะลอเหลือร้อยละ 19