ธปท.ยอมรับปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 ถือเป็นปัจจัยลบที่เพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย เตรียมนำเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ด กนง.ในวันที่ 15 ก.ค.นี้
นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกขณะนี้ เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจไทย นอกเหนือจากปัจจัยด้านการเงินต่างประเทศ และปัจจัยในประเทศ
ส่วนจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท. กล่าวว่า ยังต้องใช้เวลาประเมินให้แน่ชัดอีกระยะหนึ่ง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย จะนำปัจจัยลบดังกล่าวเข้าไปหารือในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 กรกฎาคม 2552 นี้ด้วย
“ยอมรับว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อาจมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อที่กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะไทยเท่านั้น เนื่องจากมีผลต่อความรู้สึกของคนทำให้ไม่อยากเดินทางไปในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด แต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะไม่กระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ การใช้จ่าย การลงทุนของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด”
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ ธปท.ได้ให้ความคิดเห็นว่า ที่ผ่านมาเราเคยมองว่าความเสี่ยงของโรคดังกล่าวเป็นความเสี่ยงไปทั่วโลกและเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะมีผลกระทบมากแค่ไหน แต่ต่างชาติกลับว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 อาจมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อที่กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะไทยเท่านั้น เนื่องจากมีผลต่อความรู้สึกของคน ทำให้ไม่อยากเดินทางไปในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด แต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะไม่กระทบอย่างเห็นได้ชัด ทั้งต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ การใช้จ่าย การลงทุนของประชาชน
