นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพการเงิน กล่าวว่า เหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง ถือเป็นความรุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิด เป็นโชคร้ายของระบบเศรษฐกิจไทย เพราะจะส่งผลกระทบทันทีกับการค้าและร้านค้ารายย่อย รวมทั้งความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้จ่าย การลงทุนโดยรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นางอัจนา กล่าวว่า การประเมินภาพเศรษฐกิจโดยรวม ธปท.ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะในขณะนี้คงไม่สามารถที่จะประเมินภาพสถานการณ์ทางการเมืองได้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด แต่ยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้รุนแรง และน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ หากรัฐบาลสามารถดูแลให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจบได้อย่างรวดเร็ว และ ไม่ลุกลามรุนแรงไปกว่านี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจน่าจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ หรือลุกลามมากขึ้น ก็ถือเป็นความโชคร้ายของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม นางอัจนา กล่าวว่า การประเมินภาพเศรษฐกิจโดยรวม ธปท.ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะในขณะนี้คงไม่สามารถที่จะประเมินภาพสถานการณ์ทางการเมืองได้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด แต่ยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้รุนแรง และน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ หากรัฐบาลสามารถดูแลให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจบได้อย่างรวดเร็ว และ ไม่ลุกลามรุนแรงไปกว่านี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจน่าจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ หรือลุกลามมากขึ้น ก็ถือเป็นความโชคร้ายของเศรษฐกิจไทย