บีทีเอสเล็งสยายปีกลงทุนต่างแดนทั้งเวียดนาม-ตะวันออกกลางคาดเห็นความชัดเจนในปี 2553 ส่วนในประเทศพร้อมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหมอชิต-สะพานใหม่และแบริ่ง-สมุทรปราการ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฎิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BTSC) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความสนใจที่จะลงทุนในต่างประเทศทั้งที่เวียดนามและประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยรูปแบบการลงทุนที่เวียดนามนั้นบริษัทฯจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและได้สัมปทานการเดินรถไฟฟ้า คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า
ส่วนตะวันออกกลางนั้นจะเข้าไปในรูปของบริษัทที่ปรึกษาเดินรถ โดยจะวางแผนการเดินรถให้ ขณะเดียวกันก็อาจจะสร้างทีมงานเพื่อเดินรถไฟฟ้า หากเป็นโครงการที่ดีก็จะเข้าไปร่วมทุนได้
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังมีความพร้อมที่จะลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 ช่วง คือ หมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร และแบริ่ง–สมุทรปราการ ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อทบทวนมติครม.ในการจะขอคืนโครงการดังกล่าวมาดูแลเอง เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐบาล
ทั้งนี้ หากกทม.ได้เข้ามาดูแลโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียวดังกล่าว จะให้ผู้ได้รับสัมปทานเดิม คือบีทีเอสเป็นผู้ลงทุนดำเนินการส่วนต่อขยายดังกล่าว โดยกทม.จะแก้ไขสัญญาสัมปทานเดิม เพื่อขยายระยะเวลาสัมปทานให้สอดคล้องกับเส้นทางส่วนต่อขยายใหม่ ที่ขณะนี้เหลืออายุสัญญาสัมปทานเดิมอยู่ 20 ปี ส่วนอายุสัมปทานเส้นทางใหม่ปกติจะอยู่ราว 30 ปี
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงแรมโฟร์ พ้อยท์ บาย เชอราตัน ซึ่งเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวจำนวน 437 ห้อง บนถนนสาทร คิดกับสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารกรุงเทพจำนวน 1,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บีทีเอสมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีก 4โครงการในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและทบทวนรายละเอียดความเป็นไปได้อยู่ เบื้องต้นโครงการที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจลำดับต่อไป คือโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณพหลโยธิน ซึ่งบริษัทฯได้ซื้อโครงการมา หากแผนพัฒนาโครงการถไฟฟ้าสีเขียวเส้นหมอชิต-สะพานใหม่มีความชัดเจนมากขึ้นก็พร้อมที่จะดำเนินโครงการนี้ทันที
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการนำบริษัทฯเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บีทีเอสยังคงเป้าหมายเดิมที่จะนำบริษัทฯเข้าตลาดหุ้นในไตรมาส 4 นี้ หลังจากได้เลื่อนแผนการเข้าตลาดฯมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม จากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนมาก หากสถานการณ์ตลาดหุ้นยังไม่ดี ก็จะเลื่อนการเข้าตลาดฯออกไปเป็นปีหน้าแทน เนื่องจากการขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ (ไอพีโอ)จะขายให้นักลงทุนต่างชาติด้วย ดังนั้นตลาดหุ้นโดยรวมจะต้องดีด้วย
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฎิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BTSC) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีความสนใจที่จะลงทุนในต่างประเทศทั้งที่เวียดนามและประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยรูปแบบการลงทุนที่เวียดนามนั้นบริษัทฯจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและได้สัมปทานการเดินรถไฟฟ้า คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า
ส่วนตะวันออกกลางนั้นจะเข้าไปในรูปของบริษัทที่ปรึกษาเดินรถ โดยจะวางแผนการเดินรถให้ ขณะเดียวกันก็อาจจะสร้างทีมงานเพื่อเดินรถไฟฟ้า หากเป็นโครงการที่ดีก็จะเข้าไปร่วมทุนได้
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังมีความพร้อมที่จะลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2 ช่วง คือ หมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร และแบริ่ง–สมุทรปราการ ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อทบทวนมติครม.ในการจะขอคืนโครงการดังกล่าวมาดูแลเอง เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐบาล
ทั้งนี้ หากกทม.ได้เข้ามาดูแลโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียวดังกล่าว จะให้ผู้ได้รับสัมปทานเดิม คือบีทีเอสเป็นผู้ลงทุนดำเนินการส่วนต่อขยายดังกล่าว โดยกทม.จะแก้ไขสัญญาสัมปทานเดิม เพื่อขยายระยะเวลาสัมปทานให้สอดคล้องกับเส้นทางส่วนต่อขยายใหม่ ที่ขณะนี้เหลืออายุสัญญาสัมปทานเดิมอยู่ 20 ปี ส่วนอายุสัมปทานเส้นทางใหม่ปกติจะอยู่ราว 30 ปี
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงแรมโฟร์ พ้อยท์ บาย เชอราตัน ซึ่งเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวจำนวน 437 ห้อง บนถนนสาทร คิดกับสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารกรุงเทพจำนวน 1,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บีทีเอสมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีก 4โครงการในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและทบทวนรายละเอียดความเป็นไปได้อยู่ เบื้องต้นโครงการที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจลำดับต่อไป คือโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณพหลโยธิน ซึ่งบริษัทฯได้ซื้อโครงการมา หากแผนพัฒนาโครงการถไฟฟ้าสีเขียวเส้นหมอชิต-สะพานใหม่มีความชัดเจนมากขึ้นก็พร้อมที่จะดำเนินโครงการนี้ทันที
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการนำบริษัทฯเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บีทีเอสยังคงเป้าหมายเดิมที่จะนำบริษัทฯเข้าตลาดหุ้นในไตรมาส 4 นี้ หลังจากได้เลื่อนแผนการเข้าตลาดฯมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม จากภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนมาก หากสถานการณ์ตลาดหุ้นยังไม่ดี ก็จะเลื่อนการเข้าตลาดฯออกไปเป็นปีหน้าแทน เนื่องจากการขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ (ไอพีโอ)จะขายให้นักลงทุนต่างชาติด้วย ดังนั้นตลาดหุ้นโดยรวมจะต้องดีด้วย