xs
xsm
sm
md
lg

ทุนอาหรับ"เพื่อนแม้ว"รุกหนัก กดดันไทยขอ "ทำนา-เลี้ยงสัตว์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศิริพล ยอดเมืองเจริญ
ASTVผู้จัดการรายวัน-จับตาฟื้นแผนขายชาติ ทุนอาหรับจ้องยึดอาชีพคนไทย ทั้งทำนา เลี้ยงสัตว์ ล่าสุดอ้อนผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หลังก่อนหน้านี้ “ทักษิณ”เคยชักชวนมาทำแล้ว สมัย “สมัคร” เป็นนายกรัฐมนตรี ชาวนาไทยระบุเกษตรกรไทย 40 ล้านชีวิตเดือดร้อน เป็นทาสต่างชาติแน่ ฮึมเคลื่อนไหวต้านครั้งใหญ่ หากรัฐหนุน ด้านผู้ส่งออกชี้ไทยเก่งอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้ต่างชาติมาลงทุน แถมยังผิดกฎหมายต่างด้าว “พาณิชย์”แนะควรมาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมดีกว่า เพราะรัฐเปิดกว้าง

รายงานข่าวจากกกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2552 นายสุรศักดิ์ เจือสุคนธ์ทิพย์ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือถึงนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสอบถามกรณีกลุ่มประเทศคณะมนตรีความมั่นคงรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) 6 ประเทศ ได้แก่ กาตาร์ โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน คูเวต และซาอุดิอาระเบีย แสดงความสนใจเข้ามาทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และทำนาปลูกข้าวในไทย จึงขอทราบท่าทีของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อนำไปชี้แจงกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานไทยในต่างประเทศได้รับการสอบถามเกี่ยวกับนโยบายของไทยในการขอลงทุนทำการปศุสัตว์ และทำการเกษตรในไทยมาตลอด โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ สนใจลงทุนปลูกข้าวและเลี้ยงสัตว์ เพราะกลุ่มจีซีซี กังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหาร โดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤตราคาอาหารในปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศยังได้ทำหนังสือสอบถามความเห็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อขอรับทราบแนวทางในการลงทุนด้วย

นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลสนับสนุนให้ชาวต่างลงทุนทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์และปลูกข้าวในไทย เท่ากับว่า ขายชาติ และทำร้ายเกษตรกร และวิถีชีวิตบรรพบุรุษไทย โดยจะทำให้คนส่วนในชาติกว่า 40 ล้านคน ที่ทำนำ ทำไร่ ปลูกผลไม้ เลี้ยงสัตว์ เดือดร้อน เชื่อว่า หากรัฐผลักดันเรื่องนี้คงถูกต่อต้านจากคนส่วนใหญ่และจะเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเกษตรกรไทย ซึ่งสมาคมมีจุดยืนแน่นอนว่าจะคัดค้านถึงที่สุด

“ทุกวันนี้ชีวิตเกษตรกรไทยแย่พออยู่แล้ว เป็นหนี้ เป็นสิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง หากรัฐดึงนายทุนต่างชาติเข้ามาอีกจะยิ่งซ้ำเติม เพราะนักลงทุนมีข้อได้เปรียบในเรื่องเงินทุน เทคโนโลยี ชาวนาไทยคงจะล้มหายตายจากกันหมด เหมือนธุรกิจโชห่วยที่ถูกกลุ่มทุนต่างชาติเข้ายึด ต่อไปเกษตรกรคงเป็นแค่ลูกจ้าง เป็นทาสของชาวต่างชาติและประเทศจะขาดแคลนรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตร ขณะที่คนในประเทศมีโอกาสซื้อของใช้แพงขึ้น” นายประสิทธิ์กล่าว

สำหรับทางออกนั้น รัฐควรสนับสนุนพัฒนาเกษตรกรรมไทย โดยทำยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรอย่างจริงจัง ทั้งด้านเทคโนโลยีการเพาะปลูก การตลาด การจำหน่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาต่างชาติ เพราะการพึ่งทุนต่างชาติ ท้ายที่สุดกลุ่มนี้ก็ต้องนำเงินออกไปต่างประเทศ ตกถึงมือเกษตรกรไทยเพียงน้อยนิด

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทย เกษตรกร และ ผู้ประกอบการไทย มีความสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมดีอยู่แล้ว แต่บางส่วนที่ยังขาดเทคโนโลยี ก็ควรสนับสนุน และให้ความสำคัญกับการทำอาชีพของคนไทยเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องดี แต่ควรให้น้ำหนักส่งเสริมการลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากกว่าเพราะขณะนี้มีหลายอุตสาหกรรมรอเงินลงทุนจากต่างชาติอยู่

รายงานข่าว แจ้งว่า ขณะที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า รัฐไม่ควรอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน เพราะไทยมีเทคโนโลยีการผลิตสูงอยู่แล้ว และยังสามารถส่งออกเครื่องสีข้าวไปต่างประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน เพราะอาชีพกสิกรรมเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนไทย ส่วนเรื่องการร่วมทุนก็ไม่จำเป็น เพราะผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพ แต่เป็นห่วงว่าขณะนี้มีทุนต่างชาติพยายามใช้สิทธินอมินีเข้ามาซื้อที่ดิน ทำเกษตรกรรมมากขึ้น รัฐจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะกสิกรรมอยู่ธุรกิจสงวน ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ค.2551 สมัยที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ชักชวนนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย เข้ามาลงทุนทำนา หรือเช่าที่ดินทำนา และส่งข้าวออกขายต่างประเทศ พร้อมทั้งได้จัดตั้งบริษัท รวมใจชาวนา ขึ้นเพื่อรองรับการลงทุนของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย แต่ถูกกระแสต่อต้าน ทั้งจากพรรคการเมืององค์กรภาคประชาชน กลุ่มเกษตรกร เพราะเป็นการนำต่างชาติเข้ามาแย่งชิงการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และการเกษตร ซึ่งควรจะถูกสงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น