xs
xsm
sm
md
lg

เตือนธุรกิจ SMEs ทำรังแต่พอตัว อย่าก่อหนี้จนกลายเป็นภาระในอนาคต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์
“โฆสิต” เตือนธุรกิจ SMEs ทำรังแต่พอตัว อย่าก่อหนี้จนกลายเป็นภาระหนักในอนาคต ชี้ 2 กลุ่มเสี่ยง ธุรกิจที่ต้องสตอกสินค้ามาก และกลุ่มที่มีสภาพคล่องไม่เพียงพอ แบงก์ต้องเข้าไปช่วยดูแล

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทสถาบันการเงินกับวิกฤติเอสเอ็มอี” โดยระบุว่า จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างทั่วถึง ตั้งแต่ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ อย่าง กลุ่มบริษัท จีเอ็ม มอเตอร์ (GM) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ หรือสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ดังนั้น ในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอี ย่อมได้รับผลกระทบตามความรุนแรงของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน

ทั้งนี้ พบว่า ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีบางกลุ่มไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น คือกลุ่มที่มีฐานะการเงินที่เข้มแข็งอยู่แล้วและมีหนี้สินไม่มาก และกลุ่มที่มีฐานลูกค้าชัดเจนและยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมทั้ง กลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังสามารถจัดการปรับตัวได้ เนื่องจากสามารถหารายได้เสริมอื่นๆ มาชดเชย หรือทดแทนรายได้เดิม

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี 2 ประเภทที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาจากการมีสตอกสินค้ามาก และกลุ่มที่มีสภาพคล่องไม่เพียงพอ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สถาบันการเงินต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเน้นเข้าไปดูแลเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ การปรับแผนธุรกิจ โดยต้องระมัดระวังในเรื่องของการมีระดับหนี้สินให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินเกินตัวในอนาคต

“วิกฤตปีนี้ ไม่เหมือนกับปี 2540 ดังนั้น จึงเป็นวิกฤตที่ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของลูกค้า กับสถาบันการเงิน เพื่อให้พ้นกรอบของวิกฤติการค้าโลกได้ เราต้องเข้าไปช่วยดูในสถานการณ์ข้างหน้า ให้ระดับหนี้สินอยู่ในระดับพอเพียง การยืดหยุ่น คือ การผ่อนคลาย ร่วมมือปรับแผนธุรกิจ รักษาระดับสัดส่วนหนี้ให้ระยะหนึ่ง”

ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริหาร BBL กล่าวว่า สถาบันการเงินต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลูกค้า ให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้นให้ได้ นอกจากนี้ ต้องระมัดระวังไม่ให้สัดส่วนสินเชื่อ กลายเป็นภาระในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น