“กอร์ปศักดิ์” ขันนอต รสก.วางแผนส่งรายได้ตามเป้า 9.3 หมื่นล้าน “อารีพงศ์” แฉ รสก.ยุคแม้ว 19 แห่ง ยังลอยเคว้ง ไร้ผู้นำตัวจริง ต้นเหตุ รสก.ดำเนินงานไร้ประสิทธิภาพ เพราะขาดผู้บริหารสูงสุด กำกับแผน-ตัดสินใจ เตรียมชง ครม.พรุ่งนี้
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ 2 โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับแผนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ปี 2552 หลังจากกำหนดเป้าหมายจำนวน 93,000 ล้านบาท แต่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย คาดว่า รัฐวิสาหกิจจะสามารถนำส่งรายได้เพียง 85,000 ล้านบาท
“รัฐบาลจึงต้องกำชับไปยังผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่งบริหารแผนงาน เพื่อให้สามารถนำส่งรายได้เป็นไปตามเป้าหมายโดยเฉพาะเมื่อแต่ละแห่งสามารถมีแผนฟื้นฟู อาทิ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทางผู้บริหารเชื่อว่าเมื่อสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูที่กำหนดในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรหลังมีผลขาดทุนปี 2551 โดยการนำส่งรายได้เข้าคลังในปี 2551 จำนวน 101,430 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ในปี 2551 รัฐวิสาหกิจมีกำไรรวม 122,333 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ที่มีกำไร 204,190 ล้านบาท ส่วนปี 2552 คาดว่า กำไรยังไม่ดี เนื่องจากยังเป็นห่วงรายได้รัฐวิสาหกิจกลุ่มพลังงานและไฟฟ้า เช่น ค่าเอฟที ของ 3 การไฟฟ้ายังมีภาระต้นทุนสูง ส่วนรัฐวิสาหกิจด้านโทรคมนาคมต้องแก้ไข และเร่งเดินหน้าแผนลงทุนให้เกิดความชัดเจน
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ผู้บริหารไปสำรวจแผนงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง และเดินหน้าบริหารแผน โดยการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อสามารถนำส่งรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เคยแจ้งยอดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจเมื่อต้นปี
นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อฝากให้รัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจไปกำชับผู้บริหารให้เร่งรัดการคัดเลือกผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เพราะขณะนี้มีรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีผู้บริหารสูงสุดถึง 19 แห่ง เพื่อให้มีผู้ตัดสินใจด้านนโยบาย และวางแผนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายอารีพงศ์ ยอมรับว่า ขั้นตอนการคัดเลือกผู้บริหารมีการเปิดเผยบุคคลระหว่างการคัดเลือกและบางขั้นตอนอาจไม่จูงใจให้มีผู้เข้ามาสมัคร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้วย จึงมีผลต่อผู้บริหารสูงสุด เช่น การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
