สคร. แจงผลการเบิกจ่ายเดือนกรกฎาคม 2551 มีจำนวน 12,258.28 ล้าน ส่วนรอบ 10 เดือนเบิกจ่ายไปแล้ว 145,303.77 ล้าน หรือคิดเป็น 44.16% คาดสิ้นปีงบเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในเดือนกรกฎาคม 2551 มียอดเบิกจ่ายจริงทั้งสิ้น 12,258.28 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน(ตุลาคม 2550-กรกฎาคม 2551) รัฐวิสาหกิจได้เบิกจ่ายงบประมาณจริงแล้วทั้งสิ้น 145,303.77 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.16 ของวงเงินงบประมาณปี 2551
สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในเดือนกรกฎาคม 2551 แยกตามรายสาขาได้แก่ สาขาพลังงาน 4,504.65 ล้านบาท สาขาขนส่ง 2,539.71 ล้านบาท สาขาสาธารณูปการ 2,432.89 ล้านบาท สาขาสื่อสาร 2,036.60 ล้านบาท สาขาพาณิชย์และบริการ 593.21 ล้านบาท สาขาอุตสาหกรรม 64.08 ล้านบาท สาขาสังคมและเทคโนโลยี 54.95 ล้านบาท และสาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 32.20 ล้านบาท
โดยรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนในเดือนกรกฎาคม 2551 5 อันดับแรกได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 1,682.86 ล้านบาท (ปีปฏิทิน) การเคหะแห่งชาติ 1,626.88 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,250.84 ล้านบาท (ปีปฏิทิน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1,135.92 ล้านบาท และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 1,012.36 ล้านบาท (ปีปฏิทิน)
ส่วนรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน(ตุลาคม 2550–กรกฎาคม 2551) แยกตามรายสาขาได้แก่ สาขาขนส่ง 55,188.89 ล้านบาท สาขาพลังงาน 44,347.79 ล้านบาท สาขาสาธารณูปการ 31,477.09 ล้านบาท สาขาสื่อสาร 8,938.50 ล้านบาท สาขาพาณิชย์และบริการ 3,828.79 ล้านบาท สาขาสังคมและเทคโนโลยี 946.08 ล้านบาทสาขาอุตสาหกรรม 301.74 ล้านบาท และสาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 274.90 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2550 –กรกฎาคม 2551) 5 อันดับแรกได้แก่ การเคหะแห่งชาติ 23,803.45 ล้านบาท (สาขาสาธารณูปการ) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 23,445 ล้านบาท (สาขาขนส่ง) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 22,649.16 ล้านบาท (สาขาพลังงาน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 12,700 ล้านบาท (สาขาขนส่ง) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 11,283.77 ล้านบาท (สาขาพลังงาน)
“อย่างไรก็ตาม จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในภาครัฐ คาดว่าภายในสิ้นปีงบประมาณ 2551 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจะเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ สคร. กำหนดไว้ ” ผอ.สคร. กล่าว
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในเดือนกรกฎาคม 2551 มียอดเบิกจ่ายจริงทั้งสิ้น 12,258.28 ล้านบาท รวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน(ตุลาคม 2550-กรกฎาคม 2551) รัฐวิสาหกิจได้เบิกจ่ายงบประมาณจริงแล้วทั้งสิ้น 145,303.77 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.16 ของวงเงินงบประมาณปี 2551
สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในเดือนกรกฎาคม 2551 แยกตามรายสาขาได้แก่ สาขาพลังงาน 4,504.65 ล้านบาท สาขาขนส่ง 2,539.71 ล้านบาท สาขาสาธารณูปการ 2,432.89 ล้านบาท สาขาสื่อสาร 2,036.60 ล้านบาท สาขาพาณิชย์และบริการ 593.21 ล้านบาท สาขาอุตสาหกรรม 64.08 ล้านบาท สาขาสังคมและเทคโนโลยี 54.95 ล้านบาท และสาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 32.20 ล้านบาท
โดยรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนในเดือนกรกฎาคม 2551 5 อันดับแรกได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 1,682.86 ล้านบาท (ปีปฏิทิน) การเคหะแห่งชาติ 1,626.88 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,250.84 ล้านบาท (ปีปฏิทิน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1,135.92 ล้านบาท และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) 1,012.36 ล้านบาท (ปีปฏิทิน)
ส่วนรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน(ตุลาคม 2550–กรกฎาคม 2551) แยกตามรายสาขาได้แก่ สาขาขนส่ง 55,188.89 ล้านบาท สาขาพลังงาน 44,347.79 ล้านบาท สาขาสาธารณูปการ 31,477.09 ล้านบาท สาขาสื่อสาร 8,938.50 ล้านบาท สาขาพาณิชย์และบริการ 3,828.79 ล้านบาท สาขาสังคมและเทคโนโลยี 946.08 ล้านบาทสาขาอุตสาหกรรม 301.74 ล้านบาท และสาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 274.90 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2550 –กรกฎาคม 2551) 5 อันดับแรกได้แก่ การเคหะแห่งชาติ 23,803.45 ล้านบาท (สาขาสาธารณูปการ) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 23,445 ล้านบาท (สาขาขนส่ง) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 22,649.16 ล้านบาท (สาขาพลังงาน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 12,700 ล้านบาท (สาขาขนส่ง) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 11,283.77 ล้านบาท (สาขาพลังงาน)
“อย่างไรก็ตาม จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในภาครัฐ คาดว่าภายในสิ้นปีงบประมาณ 2551 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจะเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายที่ สคร. กำหนดไว้ ” ผอ.สคร. กล่าว