กรมสรรพสามิตเผยผลเก็บภาษี พ.ย.52 สูงกว่าประมาณการถึง 40% คาดเป็นผลจาก ศก.เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะภาษีน้ำมัน และรถยนต์ ที่สะท้อนความเชื่อมั่นการบริโภค หลังตลาดรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาษีแอลกอร์ฮอร์ทะลุเป้าทุกตัว เนื่อจากกำลังซื้อของรากหญ้าที่เพิ่มขึ้น
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในเดือนพฤศจิกายน 2552 มีทั้งสิ้น 33,594.00 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 81.84% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 40.62% จากที่ตั้งไว้ที่ 23,890.49 ล้านบาท
โดยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้ 12,279.23 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 10,651.67 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับเพิ่มภาษีน้ำมันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ภาษีรถยนต์ จัดเก็บภาษีได้ 6,113.29 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,135.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.81% เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการแข่งขันด้านการตลาด โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อเร่งยอดขายรถยนต์ในช่วงปลายปีด้วย เห็นได้จากปริมาณการเสียภาษีรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 11.61%
ภาษีเบียร์ จัดเก็บภาษีได้ 5,427.81 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,270.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.56% เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีเบียร์ตามมูลค่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2552จาก 55% เป็น 60% ของมูลค่า นอกจากนี้การบริโภคเบียร์ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ภาษียาสูบ จัดเก็บภาษีได้ 4,202.96 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 974.79 ล้านบาท หรือสูงขึ้น 30.20% เนื่องจากมีการปรับเพิ่มภาษี จาก 80% เป็น 85% แม้ว่าปริมาณการบริโภคยาสูบจะลดลงจากปีก่อน ส่วนภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 3,888.63 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,015.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.35% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลายรายการ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดและอ้อย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งยังเข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคระดับรากหญ้าขยายตัวเพิ่มขึ้น
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การเก็บภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บได้ค่อนข้างสูง เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมัน เบียร์ ยาสูบ และสุรา และภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทำให้บริโภคของประชาชนและการใช้จ่ายจากภาครัฐมีเพิ่มขึ้น