คลังผนึก 4 กระทรวง 12 แบงก์ ตีปี๊บงาน “ไทยรวมพลัง กู้เศรษฐกิจชาติ” 3-9 เม.ย.นี้ ที่ อิมแพค เมืองทอง เปิดบริการด้านการเงินครบวง คาดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้าน
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า กระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม จัดงานมหกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ “ไทยรวมพลัง กู้เศรษฐกิจชาติ” ระหว่างวันที่ 3-9 เมษายน 2552 นี้ ที่อาคารชาลเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จะใช้พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,400 ตารางเมตร สำหรับให้บริการทางการเงินของสถาบันการเงิน 12 แห่ง อีกทั้งยังมีการจำหน่ายสินทรัพย์โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และหน่วยงานต่างๆ การเผยแพร่ข้อมูลความรู้ พร้อมบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง โดยมีการนำเสนอบริการเป็นกรณีพิเศษ อาทิ บริการสินเชื่อเพื่อบรรเทาภาระประชาชน ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อชะลอเลิกจ้างงาน
นายพฤติชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานมหกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ “ไทยรวมพลัง กู้เศรษฐกิจชาติ” ในวันที่ 3-9 เม.ย.นี้ เพื่อให้บริการทางการเงินจากสถาบันการเงิน 12 แห่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารทหารไทย (TMB) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพฯพาณิชย์ (บสก.) โดยจะมีการจัดบริการทางการเงินเป็นกรณีพิเศษ
รมช.คลัง กล่าวว่า มหกรรมดังกล่าวจัดขึ้น 7 วัน คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และมีเม็ดเงินสะพัดจากการจับจ่ายภายในงานไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัย TMB ได้จัดโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 6 เดือน, ธอส.เสนอสินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 2.25%
ธนาคารออมสินจัดโครงการสินเชื่อธนาคารประชาชนอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จัดโครงการสินเชื่อชะลอเลิกจ้างงานอัตราดอกเบี้ย 5% ระยะปลอดชำระคืนเงินต้น 24 เดือน, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) จัดสินเชื่อซับน้ำตา คิดอัตรากำไรต่ำกว่าปกติ 0.5% พร้อมทั้งสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยหรือไถ่ถอนที่อยู่อาศัยปลอดดอกเบี้ย 3 ปี สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ผ่อนนานถึง 6 ปี โดยคิดอัตรากำไรเริ่มต้นที่ 14.5%
KTB มอบส่วนลด สำหรับสินเชื่อกรุงไทยธนวัฎอัตราดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 3 เดือน, ธอส.จัดบริการเงินฝากออมทรัพย์ ธอส.รักการออม อัตราดอกเบี้ยพิเศษในปีแรก 2% และเงินฝากประจำ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4% โดยฝากพร้อมกับการทำประกันชีวิต
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำหน่ายสลากออมทรัพย์ทวีสินของ ธ.ก.ส. และสลากออมสินพิเศษของธนาคารออมสิน พร้อมเงื่อนไขพิเศษ
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้บริการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและท่องเที่ยว โดยคิดอัตราค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน 0.25% ต่อปี ในปีที่ 1 และ 2 และในปีที่ 3 คิด 1.75% ต่อปีตามอัตราปกติ, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) บริการประกันการส่งออก โดยยกเว้นค่าวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับลูกค้าที่ซื้อข้อมูลของคู่ค้าในต่างประเทศ 2 ราย ลดค่าวิเคราะห์ข้อมูล 50% สำหรับ 5 รายต่อไป และเปิดบริการใหม่สำหรับ SMEs ในการทำประกันการส่งออก
การจำหน่ายสินทรัพย์ด้วยเงื่อนไขพิเศษ โดยการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ธอส. บสก. บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) บรรษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บบส.สุขุมวิท) และ KTB
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบริการอื่นๆ เช่น บริการตรวจสอบข้อมูลเครดิตฟรี 30 รายต่อวัน การฝึกอบรมอาชีพและบริการให้คำปรึกษา โดย ธ.ก.ส.และธนาคารออมสิน รวมทั้งการจำหน่ายเหรียญกษาปณ์โดยกรมธนารักษ์
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บสก.กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีมติจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และบุคลากรทางราชการ ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท โดยจ่ายเป็นเช็คช่วยชาติ ซึ่ง บสก.พร้อมเข้าร่วมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ และสนองนโยบายของรัฐบาล โดยต้องการช่วยเหลือผู้ประกันตนและข้าราชการที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย จึงได้จัดโครงการพิเศษเพิ่มมูลค่า “เช็คช่วยชาติ” ให้อีก 5 เท่า หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท เมื่อนำมาซื้อทรัพย์ บสก.ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2552 เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐ