ASTVผู้จัดการรายวัน - ขุนคลังยอมรับวกฤตเศรษฐกิจโลกยังไม่ลึกสุด ความเสียหายยังขยายวงกว้าง เร่งสร้างความเชื่อมั่นพร้อมออกมาตรการอัดฉีดต่อเนื่อง เบื้องต้นต้องทำให้ผู้ประกอบการอยู่ได้โดยไม่ปลดคนงาน ส่วนเช็ค 2 พันบาท เข้า ครม.อังคารนี้แม้ยังไม่สรุปว่าแบงก์กรุงไทยหรือกรุงเทพเป็นผู้ออกเช็ค "อัมมาร" แนะรัฐบาลหาวิธีการเพิ่มเติมแจกเงินสดถึงมือคนจนโดยตรง บิ๊กแสนสิริหนุนมาตรการรัฐมาถูกทาง ฟื้นความเชื่อมั่น ส่งผลรายได้บริษัทมีแนวโน้มเพิ่ม
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังจากเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Living in Style 2009 ว่า ภายหลังจากความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาลมีมากขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมา ซึ่งเมื่อมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ผลก็สะท้อนมาที่คำสั่งซื้อที่มากขึ้น จึงทำให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่กระเตื้องขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านโยบายของรัฐบาลมาถูกทางแล้ว เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่งผลกระทบในกว้างต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจต่อเนื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง และอีกมากมาย
"เท่าที่ได้คุยกับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาฯ หรือการท่องเที่ยว ถามว่าอยากให้ช่วยเหลือในจุดไหน ก็บอกเหมือนๆ กันว่า ให้ช่วยเรื่องความเชื่อมั่น พอเกิดความเชื่อมั่นกำลังซื้อก็เริ่มกลับมา อย่างการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมกราคมก็เพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เท่าปีก่อน เพราะการท่องเที่ยวที่ซบเซามาจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีกำลังซื้อลดลงด้วย ซึ่งก็ยังต้องดูแลกันต่อไป"
อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ยังคงไม่นิ่ง ปัญหายังไม่หยุด มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความเสียหายมากขึ้น จะต้องมีมาตรการช่วยเหลืออีกหลายด้าน รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องอีก ซึ่งทางรัฐบาลก็พร้อมทั้งมาตรการและกำลังเงิน โดยแนวทางก็จะเป็นการช่วยเหลือทั้งในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ประกอบการก็จะสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องปลดพนักงาน
ด้านการส่งออกที่ลดลงและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการนั้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีมาตรการด้านการค้ำประกันเพื่อเป็นการลดคววามเสี่ยงให้กับผู้ส่งออกโดยการเพิ่มทุนผ่านธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (เอ็มซิมแบงก์) ไปแล้ว
"การส่งออกที่มีปัญหามากนั้น รัฐบาลมอบหมายนโยบายให้กับทางเอ็กซิมแบงก์ไปแล้วในเรื่องการประกันการส่งออก ซึ่งจะช่วยความเสี่ยง ให้กับผู้ประกอบการที่อาจจะโดนเบี้ยวหนี้ได้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ และวานนี้ก็จะทางบสย.ก็จะเซ็นสัญญากับอีกหลายสถาบันการเงินที่จะประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังมีการดำเนินธุรกิจทีดี แต่อาจจะยังตกเกณฑ์แบงก์อยู่เล็กน้อย ตรงนี้บสย.ก็จะเข้าไปช่วย ทำให้มีแหล่งเงินทุน มีสภาพคล่องหมุนเวียนดีขึ้น และตรงนี้จะเป็นผู้ประกอบการในทุกธุรกิจรวมทั้งส่งออกด้วย"
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (บสย.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์อีกกว่า 10 แห่ง ร่วมกันปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ในทุกธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น โดยทางบสย.จะเป็นผู้ประกันความเสี่ยงในเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในระดับหนึ่ง (อ่าน...บสย.จับมือ16สถาบันการเงินปล่อยกู้ผู้ประกอบการ...หน้า 5)
ดันเช็ค 2 พันเข้า ครม.อังคารนี้
สำหรับเรื่องเช็คช่วยชาตินั้น ก็มีความคืบหน้าไปบ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นข่าวดีที่ทางกระทรวงแรงงานแจ้งมาว่าจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ประมาณ 50% เป็นไปตามแนวทางขั้นตอนการพิมพ์ การจ่ายเช็คต้องมีประสิทธิภาพที่สุด และรัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด เพื่อให้ผู้ได้รับเช็ค นำไปใช้ตามความต้องการ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกรณ์กล่าวว่า ทีมงานจะสรุปผลและนำเสนอต่อ ครม.ในวันที่ 10 มีนาคมนี้ กรณีที่ผู้ได้รับเช็คจะนำเงินไปเก็บไว้หรือใช้จ่ายนั้น ไม่เป็นปัญหา เพราะวัตถุประสงค์ตรงนี้นั้น เป็นเรื่องที่ยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชน หากนำมาใช้จ่ายก็จะช่วยเรื่องเม็ดเงินหมุนเวียน แต่หากจะเก็บไว้ก็ช่วยให้มั่นใจขึ้นกรณีที่ สส.ฝ่ายค้านจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายกรณ์กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านทุกๆ ประเด็นอยู่
"ผมก็รอวันรอคืนที่จะให้อภิปรายอยู่ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่างๆให้ทราบโดยทั่วกัน แม้จะอ้างว่ามีข้อมูลเด็ดหรืออะไร ก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็นอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางอาจล้มประมูลการดำเนินการเรื่องเช็คช่วยชาติหลังจากสำนักงาน ประกันสังคม เปิดประมูล เนื่องจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด 2 บาทต่อใบ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คิดค่าจัดการ 3 บาทต่อใบ แต่กรมบัญชีกลางต้องการให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเป็นธนาคารของรัฐ
"กรมบัญชีกลางระบุว่า ต้นทุนเช็คอยู่ที่ 1 บาท กระทรวงการคลังจะขอดูรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง" นายกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความลังเลครั้งนี้อาจเกิดจากรัฐบาลกลัวข้อครหาตามที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่าว่าขั้นตอนการประมูลไม่โปร่งใส เพราะธนาคารกรุงเทพใกล้ชิดกับคูณหญิงกัลยาโสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
"อัมมาร"แนะแจกเพิ่มเงินสดคนจน
นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ เสนอว่า การช่วยเหลือกลุ่มคนยากจนที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การช่วยเหลือด้วยเงินสดเหมือนหลายประเทศใช้วิธีให้เงิน ซึ่งวิธีการทำได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ประเทศไทยยังไม่มีโครงการโอนเงินสดในระดับใหญ่ เพราะมีปัญหาการระบุประชากรที่มีฐานะยากจนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ทีดีอาร์ไอเชื่อว่าในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจการช่วยเหลือด้วยเงินสดจะบรรเทาปัญหาความยากจนของประเทศไทยได้
ที่ผ่านมามาตรการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือคนยากจนยังไม่เพียงพอ เพราะยังขาดการช่วยเหลือรายจ่ายด้านอาหารพื้นฐานและมาตรการช่วยเหลือยังไม่ถึงมือประชาชนที่ด้อยโอกาส สาเหตุเพราะรัฐบาลขาดข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลข สถานที่ และสถานการณ์ของคนยากจน ซึ่งรัฐบาลต้องจัดทำระบบข้อมูลของคนยากจนให้สมบูรณ์ โดยกำหนดให้ประชากรในวัยทำงานทั้งหมดกรอกแบบแสดงรายการภาษีปีละครั้ง ไม่ว่าจะมีงานทำและมีรายได้หรือไม่ ซึ่งวิธีนี้ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศได้นำมาใช้แล้ว
"คนไทยที่ยากจนมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่อยู่ในชนบท ชาวนา และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2551"นายอัมมาร กล่าว
บิ๊กอสังหาฯ เด้งรับมาตรการรัฐ
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ที่ผ่านมากำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนไทยยังมีอยู่ แต่กำลังใจไม่มี เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางการเมืองนับจากไตรมาส 4 ปี 51 อย่างไรก็ตามนับจากเดือนมกราคมเป็นต้นมายอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกลุ่มแสนสิริมียอดขายเกือบ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นไตรมาส 1 จะมียอดขายถึง 6,500 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 25 ปี
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายสูง น่าจะมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา เพราะที่ผ่านมากำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีอยู่ แต่ขาดความเชื่อมั่นจากภาวะการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ในปัจจุบันการเมืองเริ่มนิ่งรัฐบาลมีสเถียรภาพมากขึ้น กอรปกับมาตรการของภาครัฐที่ออกมาสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประชาชนกล้าตัดสินใจซื้อบ้าน อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดอสังหาฯในปีนี้เชื่อว่าจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยอดขายของผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า ประชาชนจะหันไปซื้อบ้านจากผู้ประกอบการรายใหญ่มากยิ่งขผู้ประกอบการรายใหญ่จะไปกินส่วนแบ่งของรายกลางมากขึ้น เพราะประชาชนให้ความเชื่อมั่นมากกว่า
“ภายหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย และรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบ้านที่ยังขายดีคือกลุ่มราคา 3-10 ล้านบาทซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีกำลังซื้อในตลาด ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนภาคอสังหาฯ เพราะเมื่ออสังหาฯปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวดีตามไปด้วย”
สำหรับมาตรการในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งเรื่องภาษีและมาตรการในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถือว่าเพียงพอในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว ภาครัฐควรไปมุ่งให้ความสำคัญกับการกระตุ้นภาคอื่นเช่น กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ภาคส่งออกและท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นอย่างมาก
ส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยในปีนี้นั้น หากเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยมากกกว่านี้เชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตไว้ในระดับเดียวกับปีก่อนหน้าหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยผู้ประกอบการรายใหญ่จะยังคงอยู่รอดและเติบโตได้เพราะเป็นกลุ่มที่ทางธนาคารพาณิชย์ยังให้การสนับสนุนเงินกู้สำหรับพัฒนาโครงการ ต่างจากรายกลางและรายเล็กซึ่งธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้มากเป็นพิเศษ
เปิด 2 คอนโดฯในงาน Living in Style
นางสาวดุษฎี ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริฯ กล่าวว่า ภายหลังจากที่แสนสิริดึงส่วนงานโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้การบริหารของบริษัทในเครือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เข้ามาบริหารเอง ล่าสุดได้ออกแบรนด์สินค้าใหม่ Blocs เพือ่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ระดับราคาตั้งแต่ 1.9- 6 ล้านบาท/ยูนิต เพื่อทดแทนแบรนด์ คอนโด วัน ส่วนระดับบนขึ้นมาจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เวอร์ทิเคอล และระดับไฮเอ็นจะใช้ชื่อตามคอนเซ็ปต์ของแต่ละโครงการ
โดยล่าสุดเปิดตัว 2 โครงการ คือ Blocs 77 ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท และเดอะเวอร์ทิเคิล อารีย์ ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท ภายในงาน Living in Style 2009 ทั้งนีภายในงานคาดว่าจะสามารถขายโครงการ Blocs 77 ได้อย่างน้อย 50% ส่วนเดอะเวอร์ทิเคิลปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และคาดว่าจะมียอดขายรวมจากงานดังกล่าวกว่า 2,500 ล้านบาท
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังจากเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Living in Style 2009 ว่า ภายหลังจากความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาลมีมากขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่ออกมา ซึ่งเมื่อมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ผลก็สะท้อนมาที่คำสั่งซื้อที่มากขึ้น จึงทำให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่กระเตื้องขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านโยบายของรัฐบาลมาถูกทางแล้ว เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่งผลกระทบในกว้างต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจต่อเนื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง และอีกมากมาย
"เท่าที่ได้คุยกับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาฯ หรือการท่องเที่ยว ถามว่าอยากให้ช่วยเหลือในจุดไหน ก็บอกเหมือนๆ กันว่า ให้ช่วยเรื่องความเชื่อมั่น พอเกิดความเชื่อมั่นกำลังซื้อก็เริ่มกลับมา อย่างการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมกราคมก็เพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เท่าปีก่อน เพราะการท่องเที่ยวที่ซบเซามาจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีกำลังซื้อลดลงด้วย ซึ่งก็ยังต้องดูแลกันต่อไป"
อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ยังคงไม่นิ่ง ปัญหายังไม่หยุด มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความเสียหายมากขึ้น จะต้องมีมาตรการช่วยเหลืออีกหลายด้าน รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องอีก ซึ่งทางรัฐบาลก็พร้อมทั้งมาตรการและกำลังเงิน โดยแนวทางก็จะเป็นการช่วยเหลือทั้งในส่วนของประชาชนและผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ประกอบการก็จะสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องปลดพนักงาน
ด้านการส่งออกที่ลดลงและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการนั้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีมาตรการด้านการค้ำประกันเพื่อเป็นการลดคววามเสี่ยงให้กับผู้ส่งออกโดยการเพิ่มทุนผ่านธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (เอ็มซิมแบงก์) ไปแล้ว
"การส่งออกที่มีปัญหามากนั้น รัฐบาลมอบหมายนโยบายให้กับทางเอ็กซิมแบงก์ไปแล้วในเรื่องการประกันการส่งออก ซึ่งจะช่วยความเสี่ยง ให้กับผู้ประกอบการที่อาจจะโดนเบี้ยวหนี้ได้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ และวานนี้ก็จะทางบสย.ก็จะเซ็นสัญญากับอีกหลายสถาบันการเงินที่จะประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังมีการดำเนินธุรกิจทีดี แต่อาจจะยังตกเกณฑ์แบงก์อยู่เล็กน้อย ตรงนี้บสย.ก็จะเข้าไปช่วย ทำให้มีแหล่งเงินทุน มีสภาพคล่องหมุนเวียนดีขึ้น และตรงนี้จะเป็นผู้ประกอบการในทุกธุรกิจรวมทั้งส่งออกด้วย"
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (บสย.) ร่วมกับธนาคารพาณิชย์อีกกว่า 10 แห่ง ร่วมกันปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ในทุกธุรกิจ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น โดยทางบสย.จะเป็นผู้ประกันความเสี่ยงในเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในระดับหนึ่ง (อ่าน...บสย.จับมือ16สถาบันการเงินปล่อยกู้ผู้ประกอบการ...หน้า 5)
ดันเช็ค 2 พันเข้า ครม.อังคารนี้
สำหรับเรื่องเช็คช่วยชาตินั้น ก็มีความคืบหน้าไปบ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นข่าวดีที่ทางกระทรวงแรงงานแจ้งมาว่าจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ประมาณ 50% เป็นไปตามแนวทางขั้นตอนการพิมพ์ การจ่ายเช็คต้องมีประสิทธิภาพที่สุด และรัฐบาลจะยึดหลักความยืดหยุ่นมากที่สุด เพื่อให้ผู้ได้รับเช็ค นำไปใช้ตามความต้องการ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกรณ์กล่าวว่า ทีมงานจะสรุปผลและนำเสนอต่อ ครม.ในวันที่ 10 มีนาคมนี้ กรณีที่ผู้ได้รับเช็คจะนำเงินไปเก็บไว้หรือใช้จ่ายนั้น ไม่เป็นปัญหา เพราะวัตถุประสงค์ตรงนี้นั้น เป็นเรื่องที่ยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชน หากนำมาใช้จ่ายก็จะช่วยเรื่องเม็ดเงินหมุนเวียน แต่หากจะเก็บไว้ก็ช่วยให้มั่นใจขึ้นกรณีที่ สส.ฝ่ายค้านจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายกรณ์กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านทุกๆ ประเด็นอยู่
"ผมก็รอวันรอคืนที่จะให้อภิปรายอยู่ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่างๆให้ทราบโดยทั่วกัน แม้จะอ้างว่ามีข้อมูลเด็ดหรืออะไร ก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็นอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางอาจล้มประมูลการดำเนินการเรื่องเช็คช่วยชาติหลังจากสำนักงาน ประกันสังคม เปิดประมูล เนื่องจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด 2 บาทต่อใบ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คิดค่าจัดการ 3 บาทต่อใบ แต่กรมบัญชีกลางต้องการให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเป็นธนาคารของรัฐ
"กรมบัญชีกลางระบุว่า ต้นทุนเช็คอยู่ที่ 1 บาท กระทรวงการคลังจะขอดูรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง" นายกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความลังเลครั้งนี้อาจเกิดจากรัฐบาลกลัวข้อครหาตามที่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่าว่าขั้นตอนการประมูลไม่โปร่งใส เพราะธนาคารกรุงเทพใกล้ชิดกับคูณหญิงกัลยาโสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
"อัมมาร"แนะแจกเพิ่มเงินสดคนจน
นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ เสนอว่า การช่วยเหลือกลุ่มคนยากจนที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การช่วยเหลือด้วยเงินสดเหมือนหลายประเทศใช้วิธีให้เงิน ซึ่งวิธีการทำได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ประเทศไทยยังไม่มีโครงการโอนเงินสดในระดับใหญ่ เพราะมีปัญหาการระบุประชากรที่มีฐานะยากจนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ทีดีอาร์ไอเชื่อว่าในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจการช่วยเหลือด้วยเงินสดจะบรรเทาปัญหาความยากจนของประเทศไทยได้
ที่ผ่านมามาตรการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือคนยากจนยังไม่เพียงพอ เพราะยังขาดการช่วยเหลือรายจ่ายด้านอาหารพื้นฐานและมาตรการช่วยเหลือยังไม่ถึงมือประชาชนที่ด้อยโอกาส สาเหตุเพราะรัฐบาลขาดข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลข สถานที่ และสถานการณ์ของคนยากจน ซึ่งรัฐบาลต้องจัดทำระบบข้อมูลของคนยากจนให้สมบูรณ์ โดยกำหนดให้ประชากรในวัยทำงานทั้งหมดกรอกแบบแสดงรายการภาษีปีละครั้ง ไม่ว่าจะมีงานทำและมีรายได้หรือไม่ ซึ่งวิธีนี้ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศได้นำมาใช้แล้ว
"คนไทยที่ยากจนมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่อยู่ในชนบท ชาวนา และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2551"นายอัมมาร กล่าว
บิ๊กอสังหาฯ เด้งรับมาตรการรัฐ
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ที่ผ่านมากำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนไทยยังมีอยู่ แต่กำลังใจไม่มี เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางการเมืองนับจากไตรมาส 4 ปี 51 อย่างไรก็ตามนับจากเดือนมกราคมเป็นต้นมายอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกลุ่มแสนสิริมียอดขายเกือบ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นไตรมาส 1 จะมียอดขายถึง 6,500 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 25 ปี
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายสูง น่าจะมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมา เพราะที่ผ่านมากำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีอยู่ แต่ขาดความเชื่อมั่นจากภาวะการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ในปัจจุบันการเมืองเริ่มนิ่งรัฐบาลมีสเถียรภาพมากขึ้น กอรปกับมาตรการของภาครัฐที่ออกมาสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประชาชนกล้าตัดสินใจซื้อบ้าน อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดอสังหาฯในปีนี้เชื่อว่าจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยอดขายของผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า ประชาชนจะหันไปซื้อบ้านจากผู้ประกอบการรายใหญ่มากยิ่งขผู้ประกอบการรายใหญ่จะไปกินส่วนแบ่งของรายกลางมากขึ้น เพราะประชาชนให้ความเชื่อมั่นมากกว่า
“ภายหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย และรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบ้านที่ยังขายดีคือกลุ่มราคา 3-10 ล้านบาทซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีกำลังซื้อในตลาด ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนภาคอสังหาฯ เพราะเมื่ออสังหาฯปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวดีตามไปด้วย”
สำหรับมาตรการในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งเรื่องภาษีและมาตรการในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถือว่าเพียงพอในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว ภาครัฐควรไปมุ่งให้ความสำคัญกับการกระตุ้นภาคอื่นเช่น กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ภาคส่งออกและท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นอย่างมาก
ส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยในปีนี้นั้น หากเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยมากกกว่านี้เชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตไว้ในระดับเดียวกับปีก่อนหน้าหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยผู้ประกอบการรายใหญ่จะยังคงอยู่รอดและเติบโตได้เพราะเป็นกลุ่มที่ทางธนาคารพาณิชย์ยังให้การสนับสนุนเงินกู้สำหรับพัฒนาโครงการ ต่างจากรายกลางและรายเล็กซึ่งธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้มากเป็นพิเศษ
เปิด 2 คอนโดฯในงาน Living in Style
นางสาวดุษฎี ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริฯ กล่าวว่า ภายหลังจากที่แสนสิริดึงส่วนงานโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้การบริหารของบริษัทในเครือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เข้ามาบริหารเอง ล่าสุดได้ออกแบรนด์สินค้าใหม่ Blocs เพือ่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ระดับราคาตั้งแต่ 1.9- 6 ล้านบาท/ยูนิต เพื่อทดแทนแบรนด์ คอนโด วัน ส่วนระดับบนขึ้นมาจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เวอร์ทิเคอล และระดับไฮเอ็นจะใช้ชื่อตามคอนเซ็ปต์ของแต่ละโครงการ
โดยล่าสุดเปิดตัว 2 โครงการ คือ Blocs 77 ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท และเดอะเวอร์ทิเคิล อารีย์ ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท ภายในงาน Living in Style 2009 ทั้งนีภายในงานคาดว่าจะสามารถขายโครงการ Blocs 77 ได้อย่างน้อย 50% ส่วนเดอะเวอร์ทิเคิลปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และคาดว่าจะมียอดขายรวมจากงานดังกล่าวกว่า 2,500 ล้านบาท