กองทุนน้ำมันฯ ดิ้นหาเงิน 3 พันล้าน อุ้มผู้ค้าในประเทศ 1 ก.พ.นี้ หลังยกเลิกมาตรการลดภาษี อุดหนุนราคาดีเซล-แก๊สโซฮอล์ ส่วนการแก้ปัญหาก๊าซแอลพีจีในวันที่ 16 ม.ค.นี้ กพช.เตรียมปิดบัญชีเงินกองทุนน้ำมันฯ 1 หมื่นล้าน เพื่อจ่ายให้ ปตท.เป็นค่านำเข้าก๊าซ
วันนี้ (07 มกราคม 2552) นายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าดูแลราคาน้ำมันในประเทศไม่ให้ปรับสูงมากนัก หลังนายกรัฐมนตรีประกาศไม่ต่ออายุการลดภาษีน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ หลังครบกำหนดมาตรการ 6 เดือนลดค่าครองชีพ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2552 นี้
นพ.วรรณรัตน์ คาดว่า จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ในการเข้าไปชะลอการขึ้นราคาน้ำมันในวันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2552 หลังการจัดเก็บภาษีน้ำมันจะปรับเพิ่มไปที่อัตราเท่าเดิม โดยภาษีแก๊สโซฮอล์จะปรับขึ้น 3.30 บาทต่อลิตร ไบโอดีเซลบี 2 ปรับขึ้น 2.30 บาทต่อลิตร และน้ำมันบี 5 ปรับขึ้น 2.10 บาทต่อลิตร ส่วนการจะปรับขึ้นราคาน้ำมันทันทีหรือไม่นั้น ขณะนี้ กำลังดูรายละเอียด ซึ่งอาจปรับราคาขึ้นบ้าง แต่ก็จะน้อยที่สุด หลังจากนั้น ราคาจะทยอยปรับขึ้น สะท้อนราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ เมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ต่ออายุการลดภาษีน้ำมัน เนื่องจากในขณะนี้สถานการณ์ราคาแตกต่างจากเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยหากราคายังคงต่ำอยู่ต่อไป อาจมีผลเรื่องการฟุ่มเฟือยจึงต้องปรับขึ้นตามข้อเท็จจริง
ส่วนการที่ราคาน้ำมันปรับขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร ในวันนี้ ถือว่าเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุเพิ่มเติมว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 16 มกราคม 2552 มีวาระที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนว่าควรจะปรับโครงสร้างอย่างไร จำเป็นต้องปรับ 2 ราคาหรือไม่ ซึ่งกระทรวงจะจัดทำหลายแนวทางให้ที่ประชุมพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนหนี้การนำเข้าแอลพีจี ที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเข้ามาก่อนรวมมูลค่า 8,900 ล้านบาทนั้น ก็จะมีการนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปใช้หนี้ แต่จะเป็นรูปแบบการทยอยใช้คืน เพราะฐานะล่าสุดของกองทุนน้ำมันฯ มีวงเงินรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากหักหนี้ค้าง ปตท.หักหนี้ในส่วนการส่งเสริมพลังงานทดแทน การดูแลราคาน้ำมันช่วงลดภาษีแล้วจะเหลือเงินสดประมาณ 200-300 ล้านบาทเท่านั้น