นายกฯ ถกชะตากรรมขึ้นราคาก๊าซ "แอลพีจี" วันนี้ ผู้ค้าลุ้นระทึก รัฐบาลแยก 2 ตลาดหรือไม่ "มาร์ค" แย้มเกณฑ์พิจารณาใช้ราคาในตลาดโลก เพราะก่อนหน้านี้ น้ำมันแพง ความต้องการใช้ก๊าซจึงสูง แต่ขณะนี้ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การขึ้นราคาต้องมีเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญน้ำมันแนะให้ลอยตัว เพราะรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นราคา เนื่องจากตลาดโลกปรับลงมาอยู่ที่ 330 ดอลลาร์ต่อตัน ใกล้เคียงราคาในประเทศ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ตนมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) หลังราคาในตลาดโลกปรับลงต่อเนื่อง โดยในวันนี้ (5 มกราคม 2552) ตนเองจะมีการเรียกประชุมนัดพิเศษกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงาน เพื่อพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น พร้อมขอดูตัวเลขสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ ก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือน และก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่ง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และดูสถานการณ์ว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนแนวทางหรือไม่
"วันนี้ ผมได้เรียก นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการนโยบายพลังงาน ร่วมหารือถึงเรื่องราคาก๊าซแอลพีจี เพราะรู้สึกเป็นห่วงเรื่องราคา เพราะราคาตลาดโลกปรับเปลี่ยนไปแล้ว และการแบ่งก๊าซแอลพีจี เป็นสองตลาด เรื่องขนส่งกับครัวเรือน จะเกิดปัญหาการควบคุมได้ยาก และอาจกระทบเรื่องความปลอดภัย จึงต้องมาดูและทบทวนในเรื่องนี้"
ตอนนี้ รัฐบาลคงจะขอดูตัวเลขในส่วนของแอลพีจีที่ผ่านมา ที่เดิมเป็นปัญหาก่อนหน้านี้ คือ มีความขาดแคลน เนื่องจากราคาน้ำมันสูงมาก แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันเปลี่ยนไป ก็จะเอาตัวเลขมาดูกันว่าจะเปลี่ยนแปลงแนวทางของราคาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมว่า ภายหลังการหารือกับคณะรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง น่าจะมีการปรับแนวทางไปจากเดิม และจะกล่าวในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมทุกเรื่องด้านพลังงาน ที่จะเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งคงต้องรับฟังนโยบายของนายกรัฐมนตรีก่อนว่า จะดำเนินการในเรื่องพลังงานอย่างไร โดยขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี สำหรับยานยนต์ และอุตสาหกรรม 6 บาทต่อกิโลกรัม เหมือนนโยบายเดิมเมื่อปลายปีก่อนหรือไม่ เพราะต้องดูภาพรวมทั้งหมด และฟังนโยบายจากนายกรัฐมนตรีก่อน อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมไว้สำหรับทุกแนวทาง ทั้งการขึ้นและไม่ขึ้นราคาแอลพีจี
ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาก๊าซแอลพีจี โดยระบุว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี เนื่องจากราคาแอลพีจีในตลาดโลก ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ปริมาณ 330 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งใกล้เคียงกับราคาในประเทศไทย ขณะเดียวกันไม่จำเป็นต้องแยกราคาก๊าซแอลพีจีออกเป็น 2 ตลาด
ทั้งนี้ นายมนูญ ยังกล่าวถึงแนวทางที่ถูกต้องว่า รัฐบาลควรปล่อยลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีให้ปรับขึ้นลงตามกลไกราคาในตลาดโลก เนื่องจากจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีในประเทศ โดยที่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องเป็นผู้กำหนดราคา
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันยังกล่าวถึงแนวโน้มราคาขายปลีกในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ว่า คงยากที่ผู้ค้าน้ำมันจะปรับลดราคาขายปลีกลงมาได้เพราะในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปได้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ค่าการตลาาดเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ซึ่งจะต้องติดตามดูแนวโน้มราคาในช่วงสัปดาห์นี้อีกครั้ง