ผู้ค้าน้ำมันทุกรายประกาศลดราคาขายปลีกเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ 80 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร มีผล 05.00 น. วันที่ 25 พ.ย.นี้ "บิ๊ก ปตท." คุยโม้ลดราคาไปแล้วถึง 39 ครั้ง
วันนี้ (24 พ.ย. 51) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยลดราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 80 สตางค์ และดีเซลลดลง 60 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 27.19 บาท เบนซิน 91 ลิตรละ 22.99 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 18.29 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 17.49 บาท และดีเซลลิตรละ 21.04 บาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกปรับลดอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจในปีหน้า และจากการบริโภคและการผลิตลดลง รวมถึงปัญหาสภาพคล่องของสถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ อาจส่งผลให้การจ้างงานลดลงอีกมาก
ล่าสุดวันนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 42.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ 39.36 ดอลลาร์บาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 62.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปตท.ได้ปรับราคาต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 39 แล้ว นับจากเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า โรงกลั่นหลายแห่งทั่วภูมิภาคเอเชียลดอัตราการกลั่น เนื่องจากมีความต้องการลดลงและค่าการกลั่นอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับบริษัทรถยนต์ที่ปรับลดกำลังการผลิตเนื่องจากยอดขายลดลงในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และมีแผนปิดโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มอีก นอกจากนี้ความเสี่ยงในธุรกิจเดินเรืออาจส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันในระยะสั้นลดลงอีก
"แม้ราคาน้ำมันลดลง แต่เพื่อความไม่ประมาทขอให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างประหยัด เนื่องจากประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียเหนือ กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจึงอาจทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนเพิ่มขึ้น ประกอบกับประเทศกลุ่มโอเปคมีแนวโน้มพิจารณาลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 29 พ.ย.นี้ อาจเป็นปัจจัยส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นได้อีก"
