ปตท.กัดฟันตรึงน้ำมันวันนี้ ผู้บริหารฯ แย้มพรุ่งนี้มีลุ้นขึ้นดีเซล หลังราคาตลาดโลกพุ่งขณะค่าการตลาดติดลบถึง 1.50 บาท ขณะที่ปลัดฯ พลังงานไฟเขียว ปตท.ลดสำรองน้ำมันเหลือ 3% เพื่อล้างขาดทุน
วันนี้(14 มี.ค.) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันชุดผลิตภัณฑ์ในวันนี้ แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะขยับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องไต่ระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้น ปตท.จะพิจารณาปรับราคาน้ำมันอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 15 มี.ค.นี้ ซึ่งหากจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันคงจะเป็นการปรับเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล เนื่องจากค่าการตลาดยังติดลบในระดับ 1.50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนทางด้านบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ในวันนี้เช่นเดียวกับ ปตท.
ก่อนหน้านี้ ปตท. ต้องแบกรับภาระการขาดทุนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประชาชนหันมาเติมน้ำมันดีเซลของ ปตท. ที่ราคาถูกกว่ารายอื่นลิตรละ 1 บาท โดยราคาดีเซลของ ปตท. อยู่ที่ลิตรละ 29.94 บาท ส่วนผู้ค้าน้ำมันรายอื่นอยู่ที่ลิตรละ 30.94 บาท
ส่วนนราคาน้ำมันประเภทอื่นของ ปตท.เป็นดังนี้ เบนซิน E20 อยู่ที่ลิตรละ 28.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 30.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 29.29 บาท, เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 34.09 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 32.99 บาท
**อ้างขาดทุนพันล.หวังขึ้นราคา
นายประเสริฐ กล่าวยอมรับว่า จากที่ ปตท.ต้องการร่วมลดภาระประชาชน โดยยังไม่ปรับขึ้นราคาดีเซล ทำให้ต้องรับภาระหนักตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์มาจนถึงวันนี้ ขาดทุนการค้าน้ำมันไปแล้ว 1,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาภาครัฐพยายามดูแลลดภาระประชาชน โดยกระทรวงพลังงานลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 90 สตางค์ต่อลิตร ปตท.นำกำไรจากธุรกิจอื่นมาช่วยลดต้นทุน แต่ก็ทำได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่ง ปตท.ขอดูสถานการณ์อีก 1-2 วัน คงต้องปรับขึ้นราคาดีเซล
นอกจากนี้ ปตท.ได้หารือกรมธุรกิจพลังงานขอลดปริมาณเก็บสำรองน้ำมันตามที่กฎหมายกำหนด 5% ของปริมาณยอดขายน้ำมันดีเซลที่จำหน่าย 15 ล้านลิตร/วัน หรือ ลดลงจาก 18 วันเหลือ 10 วัน เพราะประชาชนหันมาให้น้ำมันดีเซลจากปตท.เพิ่มมาก หลังราคาน้ำมันดีเซลของปตท.ราคาถูกกว่าผู้ค้ารายอื่น 1 บาท/ลิตร จึงทำให้ปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลของปตท. ไม่เพียงพอ
**ปลัดฯ พลังงานไฟเขียว ปตท.สำรองน้ำมัน
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องอนุญาตให้ ปตท.ลดปริมาณสำรองน้ำมันลง เพื่อช่วยเหลือปตท.ไม่ให้แบกรับภาระมากเกินไป แต่เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น เชื่อว่าอีก 1-2 สัปดาห์จากนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับลดลง เพราะใกล้หมดฤดูหนาว ขณะเดียวกันบรรดาผู้เก็งกำไรน้ำมันจะลดปริมาณการสำรองน้ำมันลงตามความต้องการเช่นกัน
ดังนั้น แนวทางที่ดีที่สุดของผู้ใช้น้ำมันคือ ทุกคนต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน หันไปใช้พลังงานทางเลือก โดยกระทรวงพลังงานมีนโยบายรณรงค์ให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในปีนี้ให้ได้ถึง 10-15% ซึ่งจะช่วยลดนำเข้าน้ำมันได้กว่า 70,000 ล้านบาท