ผู้บริหารฯ ปั๊มบางจาก คาดนำเข้าน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำจากรัสเซีย กระทบกลุ่มโรงกลั่นทันที 1.2 หมื่นล. ชี้ค่ากำมะถันสูงถึง 0.5% จึงไม่ค่อยมีจำหน่ายในตลาดโลก เพราะก่อให้เกิดมลพิษและควันดำ ทั้งยังมีปัญหาว่า ใครจะเป็นผู้ขาย เพราะเงื่อนไขผู้ค้าตามมาตรา 7 คงไม่สามรถทำได้
วันนี้ (16 ก.ค.) นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหย๋ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า จากการประเมินตัวเลขผลกระทบแนวทางการนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียเข้ามาจำหน่ายราคาต่ำกว่าในท้องตลาดปกติประมาณ 8 บาท/ลิตร จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงกลั่นของไทยปีละ 9,000 -12,000 ล้านบาท เนื่องจากโรงกลั่นอาจจะต้องลดกำลังการผลิตดีเซล หรือถูกกดดันให้ส่งออกมากขึ้น ซึ่งการส่งออกขายได้ราคาต่ำกว่าขายในประเทศ
นอกจากนั้น ผลกระทบยังมีต่อผู้ค้่าปลีกน้ำมันในประเทศที่คาดว่าจะกระทบยอดขายประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี เนื่องจากน้ำมันดีเซลที่นำเข้าจากรัสเซียจะจำหน่ายผ่านปั๊มของสหกรณ์การเกษตรในต่างจังหวัด ทำให้ผู้ใช้หันไปเติมน้ำมันกับสหกรณ์แทน
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า สำหรับผลกระทบโดยตรงต่อ BCP หากไม่ได้เป็นผู้กระจายน้ำมันในส่วนที่นำเข้าจากรัสเซีย เพราะ BCP มีลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันของสหกรณ์การเกษตรถึง 500 แห่งและการที่นายกรัฐมนตรีระบุจะขายให้กับสหกรณ์ด้านขนส่งและการประมงนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม นายอนุสรณ์ มองว่า น้ำมันดีเซลจากรัสเซีียที่มีค่ากำมะถันถึง 0.5% หรือ 5,000 พีพีเอ็ม ไม่ค่อยมีการจำหน่ายกันในตลาดโลก เพราะอาจก่อให้เกิดมลพิษและควันดำ รวมทั้งยังมีปัญหาว่าใครจะเป็นผู้ขายน้ำมันที่นำเข้าจากรัสเซีย เพราะผู้ค้าตามมาตรา 7 มีรายละเอียดอยู่มาก
"ที่ผ่านมาบริษัทยังไม่เคยได้รับการติดต่อหรือเรียกเข้าไปพูดคุยกับภาครัฐ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ขาย และตามมาตรา 7 ก็มีรายละเอียดเยอะ และข้อกำหนดเยอะ ดังนั้นต้องเข้าไปดูรายละเอียดว่าใครจะผ่านคุณสมบัติ เป็นขายน้ำมันส่วนนำเข้า" นายอนุสรณ์ กล่าว