ผู้จัดการรายวัน - รมว.พลังงานงง! "หมัก" นำเข้าน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซีย โรงกลั่นชี้ไอเดียนำเข้าดีเซลกำมะถันสูงจากรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นที่ใช้เงินหลายพันล้านเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ได้ตามข้อกำหนดยูโร 4 และส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ไม่เชื่อราคาถูกกว่า 8 บาท/ลิตร บิ๊กบางจากฯ แฉ 2 ปีก่อน เคยมีเอเย่นต์ติดต่อ ให้ราคาถูก 4 บาท/ลิตร แต่บริษัทฯไม่ซื้อ เนื่องจากเป็นน้ำมันผิดสเปก ปตท.ลุ้นกระทรวงพลังงานสั่งให้ใครเป็นผู้นำเข้ามาจำหน่าย ด้านผู้ค้าน้ำมันปรับขึ้นราคาขายปลีก ส่งผลดีเซลทะลุลิตรละ 45
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาภาษาสมัคร โดยเตรียมนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียจำนวน 3 แสนตัน/เดือน ซึ่งจะมีราคาถูกว่าราคาดีเซลปกติ 8 บาทต่อลิตรว่า ถือเป็นความปรารถนาดีของนายกฯ ที่ต้องการช่วยบรรเทาผลกระทบภาวะน้ำมันแพงให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบาย เพราะที่ผ่านมาเคยดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ในการช่วยเหลือน้ำมันม่วงราคาพิเศษให้กับกลุ่มประมงมาแล้วและได้กลับมาฟื้นโครงการช่วยเหลือชาวประมงอีกครั้งในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งปัจจุบันมียอดการใช้น้ำมันดีเซลราคาพิเศษประมาณ 15 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งยังไม่ได้ใช้เลย และขายผ่านองค์การสะพานปลาที่มีลักษณะคล้ายกับสหกรณ์เหมือนที่นายกฯ กล่าว
“รายละเอียดคงต้องไปถามท่านนายกฯเอง” พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ กล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าน้ำมันดีเซลกำมะถันสูงราคาถูกจากรัสเซียจะนำเข้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มใด และเอกชนใดเป็นผู้จัดซื้อและจัดเก็บ ซึ่งหากจะขายผ่านปั๊มสหกรณ์การเกษตรคาดว่าจะมีปัญหาข้อจำกัดด้านถังเก็บและหัวจ่าย เนื่องจากเป็นน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันสูงไม่สามารถปะปนกับน้ำมันดีเซลคุณภาพดีมาตรฐานยูโร 4 ที่บางจากฯ จำหน่ายผ่านปั๊มสหกรณ์การเกษตรอยู่ 500 แห่งทั่วประเทศได้
นอกจากนี้ ปั๊มสหกรณ์การเกษตรเองก็ขายน้ำมันดีเซลให้ประชาชนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกสหกรณ์เท่านั้น จึงมีโอกาสเสี่ยงที่น้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำจากรัสเซียจะเล็ดลอดไปใช้ในภาคส่วนอื่นๆ อันจะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศตามมา ดังนั้น ต้องดูว่ารัฐมีนโยบายนำเข้าดีเซลคุณภาพต่ำเพื่อขายให้กลุ่มธุรกิจใด หากเป็นการขายให้กลุ่มประมงเชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะอยู่ในทะเล แต่ถ้าจำหน่ายบนบกต้องมีการควบคุมที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องทำได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียที่นายกฯจะนำเข้ามาถึงเดือนละ 3 แสนตัน หรือคิดเป็นจำนวน 360 ล้านลิตร/เดือน คิดเป็นสัดส่วน 25%ของความต้องการใช้ดีเซลในประเทศ หากขายให้กลุ่มสหกรณ์การเกษตรที่บางจากฯ ขายดีเซลให้อยู่ มีความต้องการใช้น้ำมันเพียง 40 กว่าล้านลิตรต่อเดือน คาดว่าคงต้องขายให้สหกรณ์กลุ่มประมงและกลุ่มรถขนส่งด้วย
"เมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีเอเย่นต์ติดต่อบริษัทฯเพื่อขายน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำจากรัสเซียในราคาถูก3-4 บาท/ลิตร แต่บริษัทฯไม่ซื้อ เนื่องจากเป็นน้ำมันผิดสเปก ไม่ได้คุณภาพตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่นายกฯได้ทำการเจรจาซื้อน้ำมันดีเซลจากรัสเซียจำนวน 3 แสนตัน ต้องดูว่าเป็นราคาคงที่หรือเปลี่ยนแปลงไปตามตลาดหรือไม่ หากเป็นราคาคงที่ สัญญาซื้อปีต่อปี ก็ถือว่ามีความเสี่ยง หากราคาน้ำมันในอนาคตปรับตัวลง ผู้ซื้อจะขาดทุนมาก แต่ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นก็โชคดีไป โดยทั่วไปบริษัทน้ำมันจะซื้อน้ำมันโดยการประมูลมากกว่าการเจรจาตกลงซื้อขายโดยตรง เนื่องจากมีความโปร่งใสมากกว่าเยอะ"
ปัจจุบัน บริษัทน้ำมันไทยแทบไม่มีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเลย เนื่องจากห่างไกลและคุณภาพน้ำมันไม่ได้ตามกฎข้อบังคับมาตรฐาน โดยบางจากฯเคยนำเข้าดีเซลกำมะถันสูงจากรัสเซียเมื่อ 18ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นไทยยังใช้น้ำมันดีเซลกำมะถันสูงอยู่
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลจากรัสเซียที่ถูกกว่าลิตรละ 8 บาทนั้นเท่ากับราคาถูกกว่าดีเซลปกติถึง 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เชื่อว่าคงเป็นไปได้ยาก หากราคาถูกขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องมาขายไทย แต่สามารถขายที่อื่นก็ได้ ดังนั้นคงต้องมาดูว่าน้ำมันดีเซลดังกล่าวมีกำมะถันสูงขนาดไหน
หวั่นดีเซลรัสเซียกระทบโรงกลั่น-สวล.
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม กล่าวว่า อาจเป็นการนำเข้าน้ำมันในลักษณะของน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป เพราะที่ผ่านมาโรงกลั่นน้ำมันในประเทศได้ใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาทปรับมาตรฐานการกลั่นน้ำมันให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ มีค่ากำมะถันต่ำเพียงร้อยละ 0.035
ขณะที่น้ำมันดีเซลรัสเซียมีค่ากำมะถันสูงถึงร้อยละ 0.5 ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดมลภาวะสูงขึ้นและเหมือนกับไทยก้าวถอยหลังไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มโรงกลั่นต้องลงทุนเพิ่มอีกนับพันล้านบาท เพื่อปรับระบบการกลั่นให้สามารถกลั่นน้ำมันคุณภาพสูง เนื่องจากในปี 2555 กฎหมายไทยกำหนดให้มีค่ากำมะถันต่ำอยู่ที่ร้อยละ 0.005 เทียบเท่ามาตรฐานน้ำมันดีเซลในยุโรป (ยูโร 4)
"เบื้องต้นเชื่อว่า การนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียน่าจะเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น แต่หากมีการนำเข้าอย่างจริงจังกลุ่มโรงกลั่นต้องส่งออกน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเท่ากับว่า ไทยจะต้องส่งออกน้ำมันมาตรฐานสูงขายต่างชาติมากขึ้น"
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลจากรัสเซียต่ำกว่าราคาน้ำมันประเทศถึง 8 บาทต่อลิตรนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีราคาต่างกันขนาดนั้น เนื่องจากส่วนต่างดีเซลที่ราคา 8 บาทต่อลิตร จึงไม่แน่ใจว่าราคาที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนั้น เป็นราคาที่มีการพิจารณารวมด้านภาษีต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลและประชาชนยอมรับความจริงว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงเหมือนกันทั่วโลก ทางออกคือ ต้องสร้างจิตสำนึกให้รู้จักประหยัดอย่างจริงจัง ดีกว่าการอุดหนุนราคาน้ำมัน
“การนำเข้าดีเซลกำมะถันสูงจากรัสเซียเป็นสิ่งที่สร้างความมึนงงแก่วงการค้าน้ำมัน ว่ารัฐบาลจะใช้นโยบายอะไรกันแน่ หากไม่เน้นเรื่องคุณภาพน้ำมันที่มีผลดีต่อสุขภาพคนไทยแล้ว ก็น่าจะประกาศยกเลิกการบังคับใช้ยูโร 4 โรงกลั่นจะได้ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม โดยราคาน้ำมันรัสเซียที่ราคาถูกก็มาจากตลาดทั่วโลกขณะนี้ไม่สนใจซื้อดีเซลคุณภาพต่ำแล้ว ทำไมประเทศไทยจึงสนใจนำเข้า” แหล่งข่าววงการน้ำมัน กล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐที่จะนำเข้าน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียเพื่อลดภาระประชาชนในช่วงน้ำมันแพง นับเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าเพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพมลพิษทางอากาศ แต่ถ้าใช้ในต่างจังหวัดหรือการประมง ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องมลพิษกับเครื่องยนต์ แต่ยังไม่มั่นใจว่า ราคาที่นำเข้าจะต่ำกว่าราคาตลาด 8 บาทต่อลิตรหรือไม่ เพราะยังไม่ทราบราคาที่รวมภาษีแล้ว
ปตท.ขอความช้ดเจนจาก ก.พลังงาน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียตามที่นายกฯเสนอนั้น จะให้ใครเป็นผู้นำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศ คงต้องหารือและรอความชัดเจนของกระทรวงพลังงาน เพราะ ปตท. เป็นผู้ปฏิบัติ และ ปตท.เป็นผู้ค้ารายใหญ่ มีโรงกลั่นผลิตน้ำมันมีส่วนแบ่งการตลาดขายน้ำมันถึง 1 ใน 3 ของระบบ จะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร ก็แล้วแต่นโยบายของกระทรวงพลังงาน เพราะแม้จะเป็นน้ำมันที่มีกำมะถันสูง มีผลต่อมลภาวะสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีการใช้อยู่ในหลายประเทศ และหากนำมาใช้ในแถบต่างจังหวัด และใช้ในเรือประมง ก็มีความเป็นไปได้ เพื่อช่วยเหลือผลกระทบจากต้นทุนราคาน้ำมันแพง
ดีเซลทุบสถิติลิตรละ 45 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกราย ยกเว้นปตท. ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 80 สตางค์ และเบนซิน 60 สตางค์ มีผลตั้งแต่ 05.00 น.ของวันที่ 14 ก.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสร้างสถิติสูงสุดอยู่ที่ 45.04 บาทต่อลิตร ขณะที่เบนซิน 95 อยู่ที่ 43.79 บาทต่อลิตร เบนซิน91 อยู่ที่ 42.39 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์95 อยู่ที่ 38.79 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 37.99 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซล บี 5 ราคา 44.34 บาท
สาเหตุของการปรับขึ้นครั้งนี้มาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้นรุนแรงอีกครั้งหลังจากเกิดเหตุวิตกกรณีอิหร่านทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ปรับขึ้นรวดเดียวประมาณ 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11ก.ค.ที่ผ่านมา
นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอรอดูสถานการณ์ในตลาดโลกอีก 1-2 วัน ปตท.จึงจะพิจารณาปรับราคาอีกครั้ง เพราะหากมีราคาต่ำกว่าปั๊มอื่นมาก ประชาชนก็จะหันมาเติมที่ปั๊ม ปตท. ซึ่งจะมีปัญหาการสำรองไม่ทันความต้องการใช้
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาภาษาสมัคร โดยเตรียมนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียจำนวน 3 แสนตัน/เดือน ซึ่งจะมีราคาถูกว่าราคาดีเซลปกติ 8 บาทต่อลิตรว่า ถือเป็นความปรารถนาดีของนายกฯ ที่ต้องการช่วยบรรเทาผลกระทบภาวะน้ำมันแพงให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบาย เพราะที่ผ่านมาเคยดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ในการช่วยเหลือน้ำมันม่วงราคาพิเศษให้กับกลุ่มประมงมาแล้วและได้กลับมาฟื้นโครงการช่วยเหลือชาวประมงอีกครั้งในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งปัจจุบันมียอดการใช้น้ำมันดีเซลราคาพิเศษประมาณ 15 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งยังไม่ได้ใช้เลย และขายผ่านองค์การสะพานปลาที่มีลักษณะคล้ายกับสหกรณ์เหมือนที่นายกฯ กล่าว
“รายละเอียดคงต้องไปถามท่านนายกฯเอง” พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ กล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าน้ำมันดีเซลกำมะถันสูงราคาถูกจากรัสเซียจะนำเข้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มใด และเอกชนใดเป็นผู้จัดซื้อและจัดเก็บ ซึ่งหากจะขายผ่านปั๊มสหกรณ์การเกษตรคาดว่าจะมีปัญหาข้อจำกัดด้านถังเก็บและหัวจ่าย เนื่องจากเป็นน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันสูงไม่สามารถปะปนกับน้ำมันดีเซลคุณภาพดีมาตรฐานยูโร 4 ที่บางจากฯ จำหน่ายผ่านปั๊มสหกรณ์การเกษตรอยู่ 500 แห่งทั่วประเทศได้
นอกจากนี้ ปั๊มสหกรณ์การเกษตรเองก็ขายน้ำมันดีเซลให้ประชาชนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกสหกรณ์เท่านั้น จึงมีโอกาสเสี่ยงที่น้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำจากรัสเซียจะเล็ดลอดไปใช้ในภาคส่วนอื่นๆ อันจะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศตามมา ดังนั้น ต้องดูว่ารัฐมีนโยบายนำเข้าดีเซลคุณภาพต่ำเพื่อขายให้กลุ่มธุรกิจใด หากเป็นการขายให้กลุ่มประมงเชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะอยู่ในทะเล แต่ถ้าจำหน่ายบนบกต้องมีการควบคุมที่ดี ซึ่งเป็นเรื่องทำได้ยาก
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียที่นายกฯจะนำเข้ามาถึงเดือนละ 3 แสนตัน หรือคิดเป็นจำนวน 360 ล้านลิตร/เดือน คิดเป็นสัดส่วน 25%ของความต้องการใช้ดีเซลในประเทศ หากขายให้กลุ่มสหกรณ์การเกษตรที่บางจากฯ ขายดีเซลให้อยู่ มีความต้องการใช้น้ำมันเพียง 40 กว่าล้านลิตรต่อเดือน คาดว่าคงต้องขายให้สหกรณ์กลุ่มประมงและกลุ่มรถขนส่งด้วย
"เมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีเอเย่นต์ติดต่อบริษัทฯเพื่อขายน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำจากรัสเซียในราคาถูก3-4 บาท/ลิตร แต่บริษัทฯไม่ซื้อ เนื่องจากเป็นน้ำมันผิดสเปก ไม่ได้คุณภาพตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่นายกฯได้ทำการเจรจาซื้อน้ำมันดีเซลจากรัสเซียจำนวน 3 แสนตัน ต้องดูว่าเป็นราคาคงที่หรือเปลี่ยนแปลงไปตามตลาดหรือไม่ หากเป็นราคาคงที่ สัญญาซื้อปีต่อปี ก็ถือว่ามีความเสี่ยง หากราคาน้ำมันในอนาคตปรับตัวลง ผู้ซื้อจะขาดทุนมาก แต่ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นก็โชคดีไป โดยทั่วไปบริษัทน้ำมันจะซื้อน้ำมันโดยการประมูลมากกว่าการเจรจาตกลงซื้อขายโดยตรง เนื่องจากมีความโปร่งใสมากกว่าเยอะ"
ปัจจุบัน บริษัทน้ำมันไทยแทบไม่มีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเลย เนื่องจากห่างไกลและคุณภาพน้ำมันไม่ได้ตามกฎข้อบังคับมาตรฐาน โดยบางจากฯเคยนำเข้าดีเซลกำมะถันสูงจากรัสเซียเมื่อ 18ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นไทยยังใช้น้ำมันดีเซลกำมะถันสูงอยู่
ส่วนราคาน้ำมันดีเซลจากรัสเซียที่ถูกกว่าลิตรละ 8 บาทนั้นเท่ากับราคาถูกกว่าดีเซลปกติถึง 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เชื่อว่าคงเป็นไปได้ยาก หากราคาถูกขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องมาขายไทย แต่สามารถขายที่อื่นก็ได้ ดังนั้นคงต้องมาดูว่าน้ำมันดีเซลดังกล่าวมีกำมะถันสูงขนาดไหน
หวั่นดีเซลรัสเซียกระทบโรงกลั่น-สวล.
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม กล่าวว่า อาจเป็นการนำเข้าน้ำมันในลักษณะของน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป เพราะที่ผ่านมาโรงกลั่นน้ำมันในประเทศได้ใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาทปรับมาตรฐานการกลั่นน้ำมันให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ มีค่ากำมะถันต่ำเพียงร้อยละ 0.035
ขณะที่น้ำมันดีเซลรัสเซียมีค่ากำมะถันสูงถึงร้อยละ 0.5 ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดมลภาวะสูงขึ้นและเหมือนกับไทยก้าวถอยหลังไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มโรงกลั่นต้องลงทุนเพิ่มอีกนับพันล้านบาท เพื่อปรับระบบการกลั่นให้สามารถกลั่นน้ำมันคุณภาพสูง เนื่องจากในปี 2555 กฎหมายไทยกำหนดให้มีค่ากำมะถันต่ำอยู่ที่ร้อยละ 0.005 เทียบเท่ามาตรฐานน้ำมันดีเซลในยุโรป (ยูโร 4)
"เบื้องต้นเชื่อว่า การนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียน่าจะเป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น แต่หากมีการนำเข้าอย่างจริงจังกลุ่มโรงกลั่นต้องส่งออกน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเท่ากับว่า ไทยจะต้องส่งออกน้ำมันมาตรฐานสูงขายต่างชาติมากขึ้น"
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลจากรัสเซียต่ำกว่าราคาน้ำมันประเทศถึง 8 บาทต่อลิตรนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีราคาต่างกันขนาดนั้น เนื่องจากส่วนต่างดีเซลที่ราคา 8 บาทต่อลิตร จึงไม่แน่ใจว่าราคาที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนั้น เป็นราคาที่มีการพิจารณารวมด้านภาษีต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลและประชาชนยอมรับความจริงว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงเหมือนกันทั่วโลก ทางออกคือ ต้องสร้างจิตสำนึกให้รู้จักประหยัดอย่างจริงจัง ดีกว่าการอุดหนุนราคาน้ำมัน
“การนำเข้าดีเซลกำมะถันสูงจากรัสเซียเป็นสิ่งที่สร้างความมึนงงแก่วงการค้าน้ำมัน ว่ารัฐบาลจะใช้นโยบายอะไรกันแน่ หากไม่เน้นเรื่องคุณภาพน้ำมันที่มีผลดีต่อสุขภาพคนไทยแล้ว ก็น่าจะประกาศยกเลิกการบังคับใช้ยูโร 4 โรงกลั่นจะได้ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม โดยราคาน้ำมันรัสเซียที่ราคาถูกก็มาจากตลาดทั่วโลกขณะนี้ไม่สนใจซื้อดีเซลคุณภาพต่ำแล้ว ทำไมประเทศไทยจึงสนใจนำเข้า” แหล่งข่าววงการน้ำมัน กล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐที่จะนำเข้าน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียเพื่อลดภาระประชาชนในช่วงน้ำมันแพง นับเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าเพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพมลพิษทางอากาศ แต่ถ้าใช้ในต่างจังหวัดหรือการประมง ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องมลพิษกับเครื่องยนต์ แต่ยังไม่มั่นใจว่า ราคาที่นำเข้าจะต่ำกว่าราคาตลาด 8 บาทต่อลิตรหรือไม่ เพราะยังไม่ทราบราคาที่รวมภาษีแล้ว
ปตท.ขอความช้ดเจนจาก ก.พลังงาน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียตามที่นายกฯเสนอนั้น จะให้ใครเป็นผู้นำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศ คงต้องหารือและรอความชัดเจนของกระทรวงพลังงาน เพราะ ปตท. เป็นผู้ปฏิบัติ และ ปตท.เป็นผู้ค้ารายใหญ่ มีโรงกลั่นผลิตน้ำมันมีส่วนแบ่งการตลาดขายน้ำมันถึง 1 ใน 3 ของระบบ จะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร ก็แล้วแต่นโยบายของกระทรวงพลังงาน เพราะแม้จะเป็นน้ำมันที่มีกำมะถันสูง มีผลต่อมลภาวะสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีการใช้อยู่ในหลายประเทศ และหากนำมาใช้ในแถบต่างจังหวัด และใช้ในเรือประมง ก็มีความเป็นไปได้ เพื่อช่วยเหลือผลกระทบจากต้นทุนราคาน้ำมันแพง
ดีเซลทุบสถิติลิตรละ 45 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกราย ยกเว้นปตท. ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 80 สตางค์ และเบนซิน 60 สตางค์ มีผลตั้งแต่ 05.00 น.ของวันที่ 14 ก.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสร้างสถิติสูงสุดอยู่ที่ 45.04 บาทต่อลิตร ขณะที่เบนซิน 95 อยู่ที่ 43.79 บาทต่อลิตร เบนซิน91 อยู่ที่ 42.39 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์95 อยู่ที่ 38.79 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 37.99 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซล บี 5 ราคา 44.34 บาท
สาเหตุของการปรับขึ้นครั้งนี้มาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้นรุนแรงอีกครั้งหลังจากเกิดเหตุวิตกกรณีอิหร่านทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ปรับขึ้นรวดเดียวประมาณ 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 11ก.ค.ที่ผ่านมา
นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอรอดูสถานการณ์ในตลาดโลกอีก 1-2 วัน ปตท.จึงจะพิจารณาปรับราคาอีกครั้ง เพราะหากมีราคาต่ำกว่าปั๊มอื่นมาก ประชาชนก็จะหันมาเติมที่ปั๊ม ปตท. ซึ่งจะมีปัญหาการสำรองไม่ทันความต้องการใช้
