xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันลด-ขึ้นราคา LPG 6 บาท ยอดติดก๊าซหายวับ 50% ปชช.สับสนหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อู่ติดตั้งก๊าซในรถยนต์ ครวญน้ำมันลดราคา ทำยอดติดตั้งก๊าซในรถยนต์วูบทันที 50% โวยรัฐบาลมัดมือชกซ้ำ ประกาศขึ้นราคา LPG กิโลกรัมละ 6 บาท ฉุดยอดหายอีก 90% ถังก๊าซเหลือค้างสต๊อกจำนวนมาก รมต.พลังงาน ลงดาบเชือดอีกรอบ ออกกฎเหล็กฟันเกณฑ์มาตรฐาน ขณะที่ประชาชนสับสนหนัก รัฐบาลหลงทางใช้นโยบายพลังงานทางเลือก หวั่นรายใหญ่ทิ้งลงทุน NGV โกยส่วนต่างราคา LPG ภาคครัวเรือน

วันนี้ ( 17 พ.ย.) นายแสงเจริญ ธนาดำรงศักดิ์ ประธาน บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดการติดตั้งก๊าซแอลพีจีในรถยนต์ของบริษัทลดลงกว่า 50% จากเดิมทีมีสูงถึง 800 คันต่อเดือน ตอนนี้เหลือเพียง 400 คัน เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง และประชาชนสับสนกับพลังงานทางเลือกที่มีมาก โดยจากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG อีก 6 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ยอดรถยนต์ติดตั้งก๊าซ LPG ลดลงกว่า 90% ถังก๊าซเหลือค้างสต๊อกกว่า 300 ใบ

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานควรคุมส่วนต่างราคาก๊าซ NGV และ LPG ให้ห่างกัน 3 บาทต่อลิตร เพราะหากปีหน้าก๊าซ NGV ปรับขึ้นเป็น 12 บาทต่อลิตร LPG ปรับเป็น 14.75 บาทต่อลิตร ส่วนต่างจะน้อยลง ซึ่งเพื่อเป็นการจูงใจ สำหรับรถยนต์ในการติดตั้งถังก๊าซ NGV ต่อไป แต่

อย่างไรก็ตาม สถานีบริการก็ต้องมีการขยายปั๊มก๊าซ NGV ให้ได้เดือนละ 4 ปั๊มด้วย เพื่อรองรับความต้องการใช้ที่มากขึ้น นายแสงเจริญยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ค่าตั้งถังก๊าซ NGV ให้แท็กซี่ตกคันละ 3.5 หมื่นบาท รถยนต์ส่วนบุคคล 5 หมื่นบาท ส่วน LPG ระบบหัวฉีดอยู่ที่ราคา 4 หมื่นบาท และแบบมิกเซอร์ ราคาเพียง 2 หมื่นบาท

นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังการตรวจเยี่ยมอู่ของบริษัท ซูเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส ถนนวิภาวดี 36 เพื่อดูขั้นตอนการติดตั้งถังก๊าซในรถยนต์ โดยระบุว่า กระทรวงพลังงานจะเข้าไปคุมเข้มในกระบวนการติดตั้งเ NGV และ LPG ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ถังที่นำเข้ามาต้องได้มาตรฐาน

รมว.พลังงาน ระบุอีกว่า ผู้ที่ติดตั้งก๊าซทั้ง 2 ชนิด ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อติดสติ๊กเกอร์ที่จะระบุวันออกบัตร และวันหมดอายุ 1 ปี จะมีการต่ออายุสติ๊กเกอร์ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็กสภาพถังก๊าซ การออกมาตรการควบคุมการติดตั้งถัง NGV และ LPG ดังกล่าว จะช่วยป้องกันการนำถังก๊าซไม่ได้มาตรฐานมาใช้ เนื่องจากหลังจากกระทรวงพลังงานมีการประกาศปรับขึ้น LPG เป็น 2 ราคา อาจจะทำให้มีการลักลอบติดตั้ง หรือถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนมาใช้ในรถยนต์ ที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด และรองประธานคณะทำงาน 40 องค์กรแท็กซี่ กล่าวว่า กลุ่มแท็กซี่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคา LPG เพราะขณะนี้ NGV ยังไม่มีความพร้อม แท็กซี่ต้องต่อคิวเติม 40-50 คัน หรือวันละไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง จึงจะได้เติมเอ็นจีวี ซึ่งการขึ้น LPG อีก 2 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้แท็กซี่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 200 บาท จากที่เคยมีรายได้จากการปรับขึ้นมิเตอร์ต่อกะ 100-120 บาท ซึ่งรายได้ตรงนี้จะหายไป

อย่างไรก็ตาม จะขอติดตามการขึ้นแอลพีจีก่อนว่าจะปรับขึ้นเมื่อใด ขณะนี้แท็กซี่ 70,000 คัน ใช้ก๊าซ NGV แค่ 15,000-16,000 คัน ส่วนที่เหลือกว่า 55,000 คัน ยังใช้ก๊าซ LPG ซึ่งหากรัฐบาลยืนยันที่จะขึ้นราคาก๊าซ LPG กลุ่มแท็กซี่ก็คงจะต้องรวมตัวคัดค้านให้ถึงที่สุด

ด้านบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์นับจากนี้ไปอีกประมาณ 12 เดือน น่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศที่มีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 52 จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย จากการสิ้นสุดนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือนที่จะต้องกลับไปเก็บภาษีน้ำมันสำเร็จรูปประเภทที่มีการใช้สูงลิตรละ 2.47-3.88 บาท ตามเดิม

ศูนยวิจัยกสิกรฯ มองว่าภาครัฐอาจนำเงินกองทุนน้ำมันเข้ามาชดเชยราคาส่วนที่จะปรับเพิ่มบ้าง จึงน่าจะทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศขยับสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ราคาก๊าซที่จำหน่ายภายในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น จึงส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซยังคงอยู่ที่ประมาณลิตรละ 9-15 บาท ซึ่งอาจจะไม่สามารถจูงใจให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาติดตั้งระบบก๊าซได้มากเหมือนในช่วงเดือน ก.ค. 51 ที่ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซเพิ่มขึ้นสูงถึงลิตรละ 27-36 บาท

อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติของราคาน้ำมันที่มีความผันผวนสูง หากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศขยับขึ้นไปเกินกว่าลิตรละ 35 บาท ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่ราคาก๊าซยังคงขยับสูงขึ้นไม่มากนัก จนส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศและราคาก๊าซเพิ่มขึ้นมากกว่าลิตรละ 20 บาท ธุรกิจติดตั้งก๊าซในรถยนต์ก็อาจจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหนึ่งได้

ทั้งนี้ ในช่วงกลางปี 2551 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศได้ขยับขึ้นไปสูงมากกว่าลิตรละ 40 บาท ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเริ่มทยอยนำรถยนต์มาดัดแปลงเพื่อใช้ก๊าซทั้งก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีกันมากขึ้น จนอู่รถยนต์หลายแห่งต่างผันตัวเองมารับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ ทั้งที่อู่รถยนต์บางแห่งอาจไม่มีประสบการณ์ในการติดตั้ง หรืออาจติดตั้งโดยไม่ได้มาตรฐานก็ตาม โดยมีรถยนต์เข้าคิวรอรับการติดตั้งเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ในเขตกรุงเทพฯ มียอดการติดตั้งและจองคิวสูงถึงวันละ 4,000-5,000 คัน รวมถึงค่าติดตั้งระบบได้สูงขึ้นจากปกติถึง 3,000-10,000 บาท

กระทั่งปลายปี 2551 นี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายภายในประเทศได้ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ของประชาชนลดลงมากโดยเขตกรุงเทพฯ ลดลงมาอยู่ที่วันละ 200-300 คัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการขาดรายได้ลงอย่างกะทันหัน ขณะที่อุปกรณ์การติดตั้งที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศจำนวนมากต้องคงค้างสต๊อกอยู่ในปริมาณมาก จนทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการไปเนื่องจากทนรับภาระต้นทุนค่าอุปกรณ์ที่สั่งซื้อมาจำนวนมากก่อนหน้านี้ไม่ไหว

ทั้งนี้ ราคาก๊าซที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ในช่วงปลายปีนี้โดยราคาก๊าซ LPG ที่ใช้ในภาคขนส่งจะปรับสูงขึ้นตามแนวนโยบายของภาครัฐที่จะดำเนินการแบ่งแยกราคาก๊าซ LPG ออกเป็นสองตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่ราคาก๊าซเอ็นจีวีในปี 2552 ก็มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาทอีกด้วย การที่ราคาก๊าซทั้งสองประเภทมีแนวโน้มจะขยับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและราคาก๊าซลดต่ำลง ผู้ใช้รถยนต์จึงชะลอความสนใจที่จะติดตั้งระบบก๊าซออกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านราคาอีกสักระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังต้องรวมถึงรถยนต์ใหม่ที่ติดตั้งก๊าซจากโรงงานเข้ามาแข่งขัน และวางจำหน่ายตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2551 ได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้สนใจซื้อรถยนต์ด้วยการติดตั้งระบบก๊าซไม่ว่าจะเป็นระบบ NGV หรือ LPG จากโรงงานโดยตรง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถยนต์ถึงมาตรฐานการติดตั้ง และยังคงให้ความคุ้มครองรถยนต์ตามสิทธิ์ของรถใหม่ทุกประการ จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ที่มีรถยนต์เก่าส่วนหนึ่งหันมาซื้อรถยนต์ใหม่ที่ติดตั้งระบบก๊าซจากโรงงานโดยตรงแทน ส่งผลให้การติดตั้งระบบก๊าซตามสถานบริการต่างๆ ลดจำนวนลง
กำลังโหลดความคิดเห็น