xs
xsm
sm
md
lg

แกรมมี่ผนึกพันธมิตรบุกเอเชีย เปิดตลาดเพลงแนวป๊อป-ลูกทุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เปิดตลาดเพลงไทยในเอเชีย ลุยขายเพลงแนวป๊อป ขายเพลงลูกทุ่ง ชี้ญี่ปุ่นเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูงสุดในเอเชีย คาดสิ้นปีนี้ “หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์ฯ” โกยรายได้ 40 ล้านบาท

นายสุรชัย เสนศรี กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจเพลงไทยในภูมิภาคเอเชีย เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง ปัจจุบันตลาดเพลงในภูมิภาคเอเชียมีมูลค่าประมาณ 127,821 ล้านบาท คิดสัดส่วนเป็น 17.8% ของตลาดเพลงทั่วโลกที่มีมูลค่าประมาณ 717,086 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เพราะมีมูลค่าตลาดประมาณ 16 หมื่นล้านบาท (เทียบจาก 1 เหรียญสหรัฐเท่ากับ 34 บาท) จัดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ตามด้วยเกาหลีใต้ ไทย ไต้หวัน จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ

“ผมมองว่าเทรนด์ตลาดเพลงเอเชีย ส่วนใหญ่นิยมฟังเพลงเอเชียด้วยกัน เพราะช่วงหลังเพลงตะวันตกค่อนข้างนำเสนอแนวเพลงเดิมๆ ขณะเดียวกันศิลปินตะวันตกอยู่ห่างไกลจับต้องยาก คือ ไม่ค่อยเข้ามาโปรโมตในเอเชียเหมือนในอดีต ขณะที่คนฟังสามารถหาดาวน์โหลดเพลงตะวันตกที่ตัวเองชื่นชอบบนอินเตอร์เนตได้ง่ายและสะดวก ส่วนผู้เล่นรายใหญ่ๆ ในเอเชีย ได้แก่ เอเว็กซ์ (Avex) เป็นผู้นำตลาดในญี่ปุ่น และครองส่วนแบ่งตลาดในไต้หวัน ฮ่องกง จีน และเกาหลี/ โอเชียน บัตเตอร์ฟลาย (Ocean Butterflies) ครองส่วนแบ่งตลาดภาษาแมนดาริน ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย/ มิวสิก้า (Musica) เป็นผู้นำลำดับต้นๆ ในตลาดอินโดนีเซีย และมาเลเซีย” นายสุรชัย กล่าว

บริษัทฯมีแผนทำตลาดเพลงไทยในภูมิภาคเอเชีย 9 ประเทศที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเน้นจับมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในประเทศนั้นๆ อาทิ เอเว็กซ์, โอเชียน บัตเตอร์ฟลาย, มิวสิก้า ฯลฯ ร่วมบริหารจัดการศิลปินและคอนเทนต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้มีรายได้จากหลายช่องทางมากที่สุด เช่น รายได้จากธุรกิจขายซีดี วีซีดี และดีวีดีเพลง รายได้จากธุรกิจขายเพลงดิจิตอล รายได้จากธุรกิจโชว์บิซ เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการเพลงแบบครบวงจร

โดยแบ่งรูปแบบการดำเนินธุรกิจเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.ขายเพลงแนวป๊อป เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ ที่ชื่นชอบเมืองไทย และ 2.ขายเพลงลูกทุ่ง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนไทยที่ไปทำงานต่างแดนแล้วคิดถึงบ้าน ซึ่งถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจเพลงไทยในภูมิภาคเอเชียอย่างจริงจัง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ “หน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล” จะมีรายได้ประมาณ 40 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น