นายแบงก์ เสียงแตกผลประชุม กนง.27 ส.ค.นี้ ยอมรับ ตลาดไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า อัตรา ดบ.หลังการประชุมจะไปในทิศทางใด ชี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมา เป็นการเพิ่มจากการใช้จ่ายจริง หรือเป็นการเพิ่มตามราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น
นายณัฐวุฒิ สัจจพุทธวงค์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การประชุม กนง.ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ยังคาดการณ์ยากว่า จะมีนโยบายไปในทางใด เพราะแนวโน้มของตลาดก็ยังให้น้ำหนักเท่ากันในการปรับขึ้น หรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ซึ่งโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ยังเป็นไปได้ เพราะแม้เงินเฟ้อที่เริ่มปรับลดลงมาแล้วแต่ยังถือว่าทรงตัวอยู่ในระดับสูง ไม่น่าจะออกมาต่ำกว่า 7% แต่ในอีกด้านก็ต้องดูว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะยังไปได้ดีหรือไม่
สำหรับธนาคารพาณิชย์ เชื่อว่า น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตาม กนง.แน่นอน ทั้งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และคาดว่า น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโนบายที่ 0.25%
ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กล่าวยอมรับว่า ผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า อัตราดอกเบี้ยหลังการประชุมจะออกมาในทิศทางใด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมา เป็นการเพิ่มจากการใช้จ่ายจริง หรือเป็นการเพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น
“รอบนี้ดูยาก ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่รู้ว่าทางการจะให้ความสำคัญด้านใด แต่ในฝ่ายของธนาคารก็อยากเห็นนโยบายที่เป็นกลางและไม่ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย”
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK เชื่อว่า ผลการประชุม กนง.ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.50% แม้ว่าเงินเฟ้อจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กนง.น่าจะรอดูทิศทางของเงินเฟ้อระยะหนึ่ง หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการ 6 มาตรการ 6 เดือนมาแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะส่งสัญญาณว่าจะต้องปรับขึ้นในโอกาสต่อไป
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า ผลการประชุม กนง.ที่จะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้านั้น ยอมรับว่า คาดการณ์ยากมาก แต่ทั้งนี้ หาก กนง.มีมติปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจริง เชื่อว่า ไม่น่าจะปรับขึ้นเกิน 0.25%
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วอยากให้ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นขึ้นดีนัก ซึ่งหาก กนง.คงดอกเบี้ยไว้ก่อนก็น่าจะช่วยได้
นายตรรก บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY มองว่า กนง.น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวขึ้นอีกรอบ โดยเชื่อว่า การปรับขึ้นครั้งนี้ไม่น่าเกิน 0.25%
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ กนง.พิจารณาดอกเบี้ยขึ้น คือ ภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินบาทที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้ เพราะความแน่นนอนในปัจจัยดังกล่าวยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนมากนัก อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งนี้ในส่วนธนาคารพาณิชย์ ต่างคาดกันว่า หลังจากที่ กนง.ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ไม่น่าจะมาการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตาม เพราะในช่วงที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้มีการปรับอ้ตราดอกเบี้ย ทั้งเงินฝากและเงินกู้ไปก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น โอกาสที่จะปรับตามจึงมีน้อย
อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อาจทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของแต่ละธนาคารมีการปรับตัวขึ้นได้ โดยมองว่าธนาคารต่างๆ คงเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ดังนั้น ไม่น่าจะมีปัญหามากนัก ส่วนการแข่งขันการระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ในขณะนี้ เชื่อว่า ส่วนใหญ่ต้องการที่จะรักษาฐานลูกค้าเงินฝากไว้ เพื่อไม่ให้ไหลไปยังธนาคารอื่น โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ ดังนั้น เรื่องดังกล่าวมองแล้วไม่น่ากังวลนัก