บลจ.พรีมาเวสท์ ส่งกองทุนตราสารหนี้ KPG12M3 เอาใจลูกค้าชอบความเสี่ยงต่ำ ลงทุน 11 เดือน ชูผลตอบแทน 3.7% ต่อปี หลัง 2 กองแรกได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 1 และ 12M 2 และได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทจึงได้ส่งกองทุนประเภทนี้ออกมาอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่มองหาทางเลือกการลงทุนที่เปิดโอกาสรับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ และมีความเสี่ยงต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 3 หรือ KPG12M3 จะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24-30 กรกฎาคมนี้
สำหรับกองทุน KPG12M3 นี้มีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 11 เดือน โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนจะลงทุน 100 % ในพันธบัตรรัฐบาล รุ่น CB09618A ซึ่งมีผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนคาดว่าจะได้รับประมาณ 3.90% ต่อปี ซึ่งภายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.20% ต่อปี ประมาณผลตอบแทนที่จะได้รับคือ 3.70% ต่อปี โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน 50,000 บาท
“กองทุน KPG12M3 นี้เป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยง เพราะกองทุนนี้เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำมาก และเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ”นายเพิ่มพลกล่าว
ก่อนหน้านี้นายบัณฑิต ศุภาคม ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ บลจ. พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวถึง เหตุผลการที่บริษัทออกกองทุนคุ้มครองเงินต้น เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ ซึ่งถ้าเทียบกับหุ้นกู้กับพันธบัตรรัฐบาลเเล้ว ทั้งสองอย่างจะให้ผลตอบเเทนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เเต่ถ้าดูความเสี่ยงเเล้ว หุ้นกู้ ค่อนข้างจะมีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนตราสารหนี้ ภายใต้การบริหารของบลจ. พรีมาเวสท์ ณ วันที่ 27 มิถุนายน มีดังนี้ กองทุนรวมพรีมาเวสท์ตราสารหนี้ (PFF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.91% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.97% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 0.56% กองทุนรวมพรีมาเวสท์พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ(PGB-RMF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.89% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.93% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.93%
ส่วนกองทุนรวมพรีมาเวสท์ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ(PFI-RMF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.54% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.66% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.71% กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M (KP3M) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.50% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.53% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.55%
ขณะที่กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M2(KP3M2) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.47% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.58% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.51% กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M3 (KP3M3) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.47% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.56%
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ใช้เปรียบเทียบ เฉลี่ย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ที่ 0.75% ส่วนตัวเทียบอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยระหว่างดัชนีพันธบัตรรัฐบาล(TBMA Goverment Bond Idex) และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี เฉลี่ยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -12.57% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -2.42% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -0.53%
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 1 และ 12M 2 และได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทจึงได้ส่งกองทุนประเภทนี้ออกมาอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่มองหาทางเลือกการลงทุนที่เปิดโอกาสรับผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์ และมีความเสี่ยงต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 3 หรือ KPG12M3 จะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 24-30 กรกฎาคมนี้
สำหรับกองทุน KPG12M3 นี้มีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 11 เดือน โดยนโยบายการลงทุนของกองทุนจะลงทุน 100 % ในพันธบัตรรัฐบาล รุ่น CB09618A ซึ่งมีผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนคาดว่าจะได้รับประมาณ 3.90% ต่อปี ซึ่งภายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.20% ต่อปี ประมาณผลตอบแทนที่จะได้รับคือ 3.70% ต่อปี โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำในการลงทุน 50,000 บาท
“กองทุน KPG12M3 นี้เป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยง เพราะกองทุนนี้เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำมาก และเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ”นายเพิ่มพลกล่าว
ก่อนหน้านี้นายบัณฑิต ศุภาคม ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ บลจ. พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวถึง เหตุผลการที่บริษัทออกกองทุนคุ้มครองเงินต้น เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ ซึ่งถ้าเทียบกับหุ้นกู้กับพันธบัตรรัฐบาลเเล้ว ทั้งสองอย่างจะให้ผลตอบเเทนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เเต่ถ้าดูความเสี่ยงเเล้ว หุ้นกู้ ค่อนข้างจะมีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนตราสารหนี้ ภายใต้การบริหารของบลจ. พรีมาเวสท์ ณ วันที่ 27 มิถุนายน มีดังนี้ กองทุนรวมพรีมาเวสท์ตราสารหนี้ (PFF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.91% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.97% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 0.56% กองทุนรวมพรีมาเวสท์พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ(PGB-RMF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.89% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.93% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.93%
ส่วนกองทุนรวมพรีมาเวสท์ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ(PFI-RMF) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.54% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.66% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.71% กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M (KP3M) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.50% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.53% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.55%
ขณะที่กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M2(KP3M2) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.47% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.58% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.51% กองทุนรวมกรุงศรี-พรีมาเวสท์ 3M3 (KP3M3) มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.47% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.56%
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ใช้เปรียบเทียบ เฉลี่ย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ที่ 0.75% ส่วนตัวเทียบอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยระหว่างดัชนีพันธบัตรรัฐบาล(TBMA Goverment Bond Idex) และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี เฉลี่ยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -12.57% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -2.42% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -0.53%
