รัฐเทงบกว่า 3 พันล้านบาท หนุนรถเมล์-แท็กซี่ ใช้ก๊าซ NGV เพิ่มมากขึ้น พร้อมอัดสินเชื่อ 2 พันล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 0.5% เนรมิตเครื่องยนต์ก๊าซ LPG จำนวน 3 พันคัน ให้เปลี่ยนเป็น NGV โดยมี ปตท.เป็นกุนซือใหญ่
วันนี้ (29 พ.ค.) คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานของรัฐบาลอีกกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 โดยตั้งเป้าลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ต่ำกว่าปีละ 1,930 ล้านบาท อีกทั้งยังช่วยลดมลภาวะของประเทศ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า นโยบายของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงในขณะนี้ เห็นควรให้ส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกในระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเร่งส่งเสริมการนำก๊าซธรรมชาติ NGV มาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
นายวีระพล กล่าวว่า งบประมาณส่วนแรก 2,000 ล้านบาท รัฐบาลจะให้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV ระยะที่ 2 ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงาน 8 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเดินรถโดยสารนำรถมาร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 3,000 คัน ภายในปี 2552
โดยเบื้องต้น เงินจำนวน 2,000 ล้านบาท จะใช้เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 0.5% เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถแท็กซี่และรถเมล์ จากที่เคยใช้ก๊าซแอลพีจี เป็นเอ็นจีวี ซึ่งจะช่วยประหยัดการนำเข้าน้ำมันได้ถึง 100 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 1,900 ล้านบาทต่อปี
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเอ็นจีวี ของแท็กซี่เฉลี่ยอยู่ที่คันละ 40,000 บาท ส่วนรถเมล์จะอยู่ที่ 50,000-100,000 บาท รวมทั้งเร่งรัดให้ ปตท.เพิ่มจำนวนปั๊มเอ็นจีวีให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยกระทรวงพลังงานยืนยันว่า ภายในปีนี้จะมีปั๊มเอ็นจีวีทั้งสิ้น 355 ปั๊ม
“เรามุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งและรถรับจ้างสาธารณะที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์ใช้ NGV ทดแทนเชื้อเพลิงเดิม เป็นการชะลอการขอขึ้นค่าโดยสารรอบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน” นายวีระพล กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า จะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันสำเร็จรูปได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าทดแทนการนำเข้าไม่ต่ำกว่าปีละ 1,930 ล้านบาท แล้วหันไปใช้ก๊าซ NGV ประมาณปีละ 3,600 ล้านลุกบาศก์ฟุต และยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนมอนนอกไซด์ประมาณปีละ 3,200 ตัน ลดปริมาณผงฝุ่นจากเขม่าควันดำอีกปีละ 280 ตัน
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สนใจตั้งสถานีบริการ NGV สามารถกู้ยืมได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ด้วย
อนึ่ง โครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV ระยะที่ 1 ใช้งบประมาณดำเนินการไปแล้วรวม 7,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการรถโดยสารและประชาชนทั่วไปที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์ใช้ NGV โดยรัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมการใช้ NGV ทดแทนการใช้น้ำมันให้ได้ 20% ภายในปี 2555 คาดว่าจะมีรถยนต์ใช้ NGV จำนวน 240,000 คัน ขณะที่มีสถานีบริการ 725 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนงบประมาณอีกกว่า 1,057 ล้านบาทนั้น จะนำไปใช้ในการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ประชาชนที่ต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 โดยจะให้กู้จำนวน 30,000 บาท/รายสำหรับการซื้อเครื่องปรับอากาศ และ 10,000 บาท/ราย สำหรับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ