“สมัคร” ควันออกหู หลังโดนสะกิดถามแผนรับมือน้ำมันแพง เปิดศึกปะทะ “เวิลด์แบงก์” ตั้งก๊วนสุมหัวประชุมป่วน ศก.โลก ชี้นิ้วให้ปลูกพืชน้ำมันแทนข้าว ยันไม่เกิดวิกฤตอาหาร สบถซ้ำ มึงค้าน้ำมันไม่มีเหตุผล แล้วมาหัวเราะชอบใจกันใหญ่ พร้อมฝากแขวะ “บัน คี มุน” เลขาธิการสหประชาชาติ ให้ช่วยออกมาชี้แจง ปัญหาวิกฤตอาหารแพง-น้ำมันแพง ใครปั่นราคาในตลาดโลก
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น.นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังจากที่น้ำมันก็แพงขึ้นทั่วโลกก็เป็นห่วงเรื่องดังกล่าว ว่า วันนี้ รัฐบาลได้มีการประชุมเรื่องสำคัญได้เอาเรื่องวิกฤตน้ำมัน คือ พลังงานเข้ามาประชุมเบื้องต้น และในการประชุมครึ่งปีของธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) เขาก็ฝากบอกรัฐมนตรีมาเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกิน แต่เราก็ไม่วิตกเลย แต่จะพัฒนาตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่องวิกฤตการณ์ทางพลังงาน และจะพัฒนาเรื่องการผลิตอาหารเพื่ออุดหนุนชาวโลก จะเป็นครัวของโลก
นายสมัคร กล่าวว่า ตนเองได้สั่งให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงที่ดินของราชพัสดุที่มีอยู่จำนวนหลายล้านไร่ ซึ่งไม่ได้อยู่บนภูเขา และเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่สามารถทำได้เอามาเพาะปลูก ที่จริงแล้วเราตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อจะได้ดูแลสองอย่างพร้อมกัน โดยจะชักชวนเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์
เมื่อถามว่า จะใช้เวลาอันสั้นดำเนินการได้มากแค่ไหน นายสมัคร กล่าวว่า ทำเยอะ ทำทันที ทำแม้กระทั่งเรื่องปุ๋ยและเรื่องอื่นๆ นายกรัฐมนตรีเจรจาความกับประเทศนี้ ประเทศนั้นที่มีปุ๋ย ไปเจรจากับบริษัทที่ผลิตปุ๋ย ก็ได้ค้นพบว่าในประเทศไทยที่มันยุ่งยากปุ๋ยแพงความจริงมันแพงขึ้นตามสมควร ของในโลกนี้กำลังขายอยู่ 9,000 แต่ประเทศไทยบอกราคา 16,000 อย่างนี้เราจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ก็จะชักชวนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ก็ทำเป็นเม็ด พอใส่แล้วก็ได้ผลประโยชน์มากกว่า ในรายการสนทนาประสาสมัคร ก็จะได้คุยเรื่องปุ๋ย
**เปิดศึก “เวิลด์แบงก์” สบถ “มึงค้าน้ำมันไม่มีเหตุผล”
เมื่อถามว่า ปัญหาเฉพาะหน้าที่บอกว่าน้ำมันจะขึ้นไปถึง 120 เหรียญต่อบาร์เรล ในไม่ช้าประชาชนจะเป็นคนรับภาระทุกอย่างหมด รัฐบาลจะเข้าไปช่วยดูแลอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า นี่รัฐบาลทั้งโลกเขาต้องแบกน้ำหนักหรือไง จะดูในโลกนี้รัฐบาลอื่นเขาทำอย่างไร เราพยายามดูแลพยายามทำทุกอย่าง จะดูสิมันจะบ้าไปขนาดไหน กำลังนี้เมื่อก่อนบอกถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็บ้ากันแล้ว ตอนนี้มาถึง 117 ผมก็ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง) ถามว่า เวลาไอ้พวกเวิลด์แบงก์ (ธนาคารโลก) มันพูดกัน ด่ามันบ้างหรือเปล่า มันมาด่าเราว่าเอาพื้นที่ปลูกข้าวไปปลูกอะไร ไปปลูกพืชน้ำมัน ปลูกอย่างโน้นอย่างนี้
“ผมบอกแล้วว่ามันหรือเปล่าว่าพวกมึงค้าน้ำมันกันแบบนี้ไม่มีเหตุผล ขึ้นเอาๆ น้ำมันยังไม่หมดโลกเลย แต่ขึ้นแบบไม่มีเหตุผล ถามหรือเปล่า เขาบอกเขาพูดนอกวงไม่ได้พูดในที่ประชุม เขาก็ไม่รับทราบหรอก แต่หนังสือไทยก็เอาสิ บอกว่า นายกรัฐมนตรีไทยบ่น บอกว่า พวกไปสุมหัวประชุมเวิลด์แบงก์พูดกัน แต่มาดูแคลนเรื่องอาหารการกิน กลัวโลกจะขาดแคลน นายบัน คี มุน (เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ) ออกมาชี้แจงบอกให้ช่วยดูผลิตผลหน่อย แล้วไอ้พวกขายน้ำมันทำเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน ช่วยจัดการบ้างหรือเปล่า ไม่มีเหตุผลขึ้นราคากันตามใจชอบ ทำเศรษฐกิจทั้งโลกปั่นป่วน หัวเราะชอบใจกันใหญ่ พอข้าวแพงมาหน่อยทำมาชี้นิ้วว่าอย่าไปปลูก”
**แนะชาวบ้านเปลี่ยนอาชีพ หารายได้เพิ่มยุคของแพง
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะให้ความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร เพราะนายกฯ บอกว่า จะพยายามทำให้รายได้กับรายจ่ายให้มันไปกันได้ นายกรัฐมตรี กล่าวว่า กำลังทำอยู่ แต่ไม่ต้องการพูดให้ราคาสินค้าขึ้น ทำอยู่จะต้องทำให้มันใกล้เคียงกัน จะอธิบายให้ฟังว่า เขาบอกว่าเมื่อเวลาที่คนเรานั่งตะบันเย็บผ้าได้ 200 บาท จับใส่ๆ ก็ 200 บาท ก็ได้เดือนแค่ 6,000 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนออกมาทำอาชีพที่เป็นบริการ เช่น ไม่ใช่ผู้หญิงบริการ คนจบ ม.6 กำลังจะมีคอร์สอบรมเพียง 6 เดือน คือ ผู้ช่วยพยาบาล ประเทศไทยกำลังต้องการบริการอย่างนี้อย่างยิ่ง และรายได้ก็เริ่มต้นที่ 10,000 บาท แล้วก็ไล่ขึ้นไป และมีคนอายุอาวุโสอย่างตน 60 ขึ้นไปถึง 8 ล้านคน แล้วครึ่งหนึ่ง คือ ประมาณ 4 ล้านคน สามารถจะจ่ายได้ เพียงแต่เปลี่ยนจากที่ไปนั่งเย็บมาทำอาชีพอย่างนี้ก็ได้รายได้เพิ่มกว่าเท่าตัว ถ้าสามีภรรยาทำด้วยกันก็ได้เพิ่มถึง 2 เท่าตัว แต่สิ่งที่เรากำลังทำก็ไม่พยายามพูด จะปรับเงินเดือนพอถึงเวลาก็ปรับพรวดเลยกำลังคิดอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
**ส่งสัญญาณขึ้นเงินเดือน ปรับรายได้สมดุลรายจ่าย
นายสมัคร กล่าวว่า ขณะที่ชาวไร่ชาวนาขายของได้ราคาแพงขึ้น ทุกอย่างกำลังเคลื่อนที่ แรงงานก็มีงานทำ เศรษฐกิจมันเริ่มหมุนเวียน เราจะไปบอกว่าให้ข้าวถูกเพราะกดราคาก็ไม่ควร แต่เราควรจะทิ้งราคาตรงนี้ไว้ แล้วจะเพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้น วงจรมันมี แต่จะกู้เงินมาขึ้นเงินเดือนเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องมีแหล่งที่ประเทศชาติจะมีรายได้พอที่จะให้เงินเดือนนั้นขึ้น แต่จะไม่พูดนำว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่จะต้องปรับกำลังทำอยู่