“มิวเร็กซ์” ร่อนหนังสือแจงไม่ได้พักงาน-จ่ายเงินเดือนปกติ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “บริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด” เจ้าของสนามกอล์ฟ บลูแคนยอน คันทรี คลับ ร่อนหนังสือชี้แจง กรณีพนักงานออกมาชุมชนประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมที่ถูกสั่งพักงาน และไม่จ่ายเงินเดือน ไม่เป็นความจริง พนักงานทุกคนได้รับเงินเดือนและสวัสดิการตามปกติ แต่เหตุที่ต้องให้หยุดงานชั่วคราว เพื่อวางโครงสร้างการบริหารจัดการให้เกิดความเหมาะสมเท่านั้น และยังจ่ายเงินเดือนตามปกติ

จากกรณีที่พนักงานบริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด ได้รวมตัวกันประท้วงและร้องเรียนกับสื่อมวลชนและสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทภายหลังผู้บริหารใหม่เข้ามาบริหาร ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.2551 ทั้งในเรื่องของการสั่งให้พักงาน บริษัทไม่จ่ายเงินเดือน รวมไม่ถึงมีการข่มขู่พนักงานและเรียกร้องให้กรรมการบริหารชุดใหม่ฯ เป็นต้น มาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด ได้ส่งหนังสือชี้แจงกับสื่อมวลในจังหวัดภูเก็ต ถึงการรวมตัวกันชุมชนของพนักงาน ว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มพนักงานของบริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด ที่ทำงานอยู่ในสนามกอล์ฟบลูแคนยอน คันทรี คลับ รวมตัวกันและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกล่าวอ้างว่าบริษัทฯได้พักงานและเลิกจ้างโดยไม่ทราบสาเหตุ ตลอดจนไม่เป็นธรรมรวมทั้งไม่ได้รับเงินเดือนและค่าตอบแทนจากนายจ้างนั้น

บริษัทใคร่ขอชี้แจงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

1) บริษัทมิได้มีการพักงานหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด คือ บริษัทไม่เคยพักงานพนักงาน หากแต่เป็นการให้พนักงานหยุดงานเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยให้ถือว่าพนักงานยังคงสภาพความเป็นพนักงานของบริษัทอยู่ โดยยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเดือนและสวัสดิการตามปกติ แต่เหตุที่ต้องให้หยุดงานชั่วคราวก็เพื่อวางโครงสร้างการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมตามที่ผู้บริหารของบริษัทเห็นว่าเหมาะสมเท่านั้น

2) กรณีค่าจ้างที่มีการให้ข่าวว่าบริษัทไม่จ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานนั้น บริษัทขอชี้แจงว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ในสนามกอล์ฟบลูแคนยอน คันทรี คลับ นั้น ไม่เคยมีพนักงานคนใดแจ้งหรือมีหนังสือมายังบริษัทว่าไม่ได้รับค่าจ้าง เนื่องจากการทำงานในสนามกอล์ฟแต่อย่างใด นอกจากนี้บริษัทฯได้ปิดประกาศเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ให้พนักงานที่ไม่ได้รับเงินเดือนหรือรับเงินเดือนไม่ถูกต้องของเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ให้มาติดต่อกับฝ่ายบุคคลของบริษัทฯ แต่ไม่มีพนักงานคนใดมาแจ้งว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด

3) คำสัมภาษณ์ของพนักงานผู้เป็นผู้แทนของลูกจ้าง และลูกจ้างบางคน กล่าวว่า ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทจำนวน 6 ข้อซึ่งตามหนังสือข้อเรียกร้องของตัวแทนลูกจ้างไม่มีข้อเรียกร้องหรือข้อเสนอใดๆ ที่เกี่ยวกับการขอกลับเข้าทำงานของพนักงาน เพราะบริษัทฯ ไม่เคยมีคำสั่งพักงานพนักงานไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับการดำเนินการของบริษัทหลังรับข้อร้องเรียนจากตัวแทนลูกจ้างแล้ว ได้นัดหมายให้มีการเจรจากันในวันที่ 7 มีนาคม 2551 เวลา 14.00 น.ณ อาคารฝ่ายบุคคลของบริษัทซึ่งบรรยากาศในการเจรจาเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสที่จะตกลงกันได้ จึงได้มีการทำบันทึกการประชุมเจราจข้อเรียกร้อง เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้มีการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน

ปรากฏว่า ผู้แทนฝ่ายลูกจ้างได้ขีดแก้ไขรายละเอียดเปลี่ยนแปลงข้อความ ที่ได้ประชุมกันในลักษณะไม่ประสงค์ที่จะยุติข้อพิพาท และกลับมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในลักษณะว่านายจ้างปิดกั้นการเจรจาไม่ให้มีการเจรจาตามข้อเรียกร้อง และบังคับให้พนักงานที่เรียกร้องถอนข้อเรียกร้อง

บริษัทขอชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าบริษัทฯไม่ได้มีเจตนาปิดกั้นการเจรจาและพยายามเปิดโอกาสที่จะประนีประนอมข้อพิพาทที่พนักงานบางส่วนเรียกร้องทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วข้อเรียกร้องไม่เกี่ยวข้องกับสภาพการจ้าง เช่น ไม่ต้องการให้กรรมการและผู้บริหารที่มีอำนาจของบริษัทฯเข้ามาบริหารกิจการสนามกอล์ฟบลูแคนยอน คันทรี คลับ ห้ามไม่ให้โยกย้ายพนักงานทุกระดับ ห้ามไล่ออก ปลดออก ให้ออกหรือพักงานพนักงานทุกระดับภายใน 3 ปี

รวมทั้งห้ามข่มขู่หรือบีบคั้น หรือฝืนใจให้พนักงานทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่ตามปกติ และมิให้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวนอกจากไม่เกี่ยวกับสภาพการจ้างแล้ว ยังเป็นการกำหนดบีบบังคับให้ผู้บริหาร ไม่อาจบริหารกิจการของบริษัทได้อีก

สำหรับข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการปรับเงินเดือนให้แก่พนักงานทุกระดับไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,000 บาทถึง 1,500 บาท ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่อยู่ในสภาพการจ้าง แต่ก็อยู่ในข้อบังคับของบริษัทฯอยู่แล้วและบริษัทก็มิได้ละเลยแต่อย่างใด

บริษัทขอชี้แจงด้วยว่าในระหว่างมีการเจรจาข้อเรียกร้องยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน พนักงานกลุ่มเรียกร้องกลับใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัทโดยมาชุมนุมเรียกร้องบริเวณหน้าสนามกอล์ฟโดยมีเจตนา เพื่อให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อผู้มาใช้บริการ เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นการละเมิดต่อกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญากับบริษัท ซึ่งบริษัทต้องป้องกันสิทธิ์ของบริษัทกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป