ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.อยู่ที่ 73.8 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 1.2 เทียบกับเดือนก่อน โดยมีมาตรการกระตุ้น ศก.ของรัฐบาลเป็นตัวหนุน ประชาชนยังกังวลสินค้าแพง และผลงานที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาล
วันนี้ (10 เม.ย.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือน มี.ค.2551 โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 73.8 เพิ่มขึ้นจาก 72.6 ในเดือน ก.พ.2551 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 73.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 94.6
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.51 ทุกตัว คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล, กระทรวงการคลังปรับเป้าหมายจีดีพีปี 2551 เพิ่มจาก 5% เป็น 5.6% ตลอดจนแนวโน้มการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม คือ ภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง, ความกังวลจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ และการแข็งค่าของเงินบาท
“ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นทุกตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาจากความรู้สึกในเชิงบวก ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประชาชนหวังว่ามาตรการต่างๆ จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 6% ประกอบกับนักเศรษฐศาสตร์ต่างปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้นจากการเห็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น”
นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังคาดการณ์ว่า การบริโภคในขณะนี้จะยัีงขยายตัวได้ไม่มากนัก จากเหตุที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกตัว ยังคงต่ำกว่าระดับปกติ ที่ 100 เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลกับปัญหาราคาน้ำมันแพง การรอดูผลงานของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะฟื้นตัว และเกิดผลเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่
ดังนั้น มองว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวไม่สูงขึ้นมากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่จะสามารถเริ่มเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้นได้ชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เริ่มจะออกมาเห็นผล
“ความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าการเมืองนิ่งและราคาน้ำมันไม่แพง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นราวปลายไตรมาส 2 ถึงต้นไตรมาส 3 การบริโภคจะกลับมาเป็นพระเอกในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้” นายธนวรรธน์ กล่าวทิ้งท้าย
