ปตท.สผ.ปรับโครงสร้างบอร์ดใหม่ หลังเอ็มดี “มารุต” ไขก๊อกทิ้งเก้าอี้กรรมการและกรรมการบริหารความเสี่ยง เจ้าตัวยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับประธานซีอีโอ “อนนต์” ขณะที่วงใน ชี้ การเมืองกดดันหนัก หลังแหล่งก๊าซเสียหายพร้อมกันถึง 2 แห่ง ทำให้ไม่มีเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า
วันนี้ (10 เม.ย.) นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทและกรรมการบริหารความเสี่ยงนั้น เนื่องจากเกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารนั้น ตนเองขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ตรงนี้ตนเองถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีของบริษัท รวมทั้งเป็นการช่วยกันทำงาน หลังจากที่ผ่านมางานของบริษัทเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จึงจำเป็นจะต้องหาบุคคลกรเข้ามาช่วยงาน ซึ่งไม่ได้มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งใดๆ
ส่วนการแต่งตั้ง นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทนนั้น ถือเป็นคนคุ้นเคยร่วมทำงานกันมา โดยนโยบายในการดำเนินงานยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“ผมขอย้ำว่า ไม่มีอะไร การเปลี่ยนแปลงนี้ก็เป็นธรรมดา เมื่องานมันมากขึ้น ก็ต้องหาคนเข้ามาช่วยงาน ผมก็ยังคงทำงานอยู่ที่นี่ต่อไป ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ก็มีการคุยกับคุณอนนต์ว่า เราจะช่วยกันทำงานอย่างไร เพื่อให้บริษัทมันโตขึ้น ดีขึ้น งานที่นี้ก็เยอะแผนการลงทุนก็เหมือนเดิม ยังเดินหน้าต่อไป ส่วนผมก็อีก 4 ปีข้างหน้า จึงจะเกษียน อายุการทำงาน”
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังคงเป้ายอดขายปิโตรเลียมไว้ที่ 2.2 แสนบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขายได้ 1.8 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยแหล่งปิโตรเลียมหลักๆ ของบริษัทคงมาจากแหล่งโอมาน แหล่งอาทิตย์และอาทิตย์ตอนเหนือ และแหล่งเวียดนาม 9-2
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเงินลงทุนไว้ที่ 80,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการศึกษาและสำรวจแหล่งปิโตรเลียมจำนวน 38 โครงการ ทั้งนี้ เงินลงทุนดังกล่าวเป็นจำนวนเดิม ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ผู้บริหาร ปตท.หลายคน กำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากรัฐบาล เนื่องจากแหล่งก๊าซอาทิตย์ ในอ่าวไทย และแหล่งก๊าซเยนตากุน ในพม่า เกิดเหตุขัดข้องพร้อมกัน จนไม่สามารถสำรองพลังงานผลิตไฟฟ้าได้ ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันซึ่งมีราคาแพง และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ปรับตัวสูงขึ้น
