ส.ค้าส่ง-ปลีกไทย ชี้ยอดขายร้านค้าส่ง-โชวห่วย เริ่มสะดุด ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่าย ยอมจ่ายเงินซื้อของชิ้นเล็กลง ซับพลายเออร์อัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่งรับพฤติกรรม แนะผู้ประกอบรายย่อยบริหารสต็อกรัดกุม เลือกสินค้าสภาพคล่องตัวสูงขาย
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ผลพวงจากราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง และมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้ขณะนี้ยอดขายของร้านค้าโชวห่วยหรือผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยลดลง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังหันไปซื้อสินค้าขนาดเล็กลง โดยพบว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าซับพลายเออร์หรือผู้ผลิตสินค้า หันมาเล่นกลยุทธ์ไซส์ซิ่งมากขึ้น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น และจากการที่ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้คนเริ่มเลือกซื้อสินค้าที่โมเดิร์นเทรดจัดรายการบ้าง เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับการซื้อที่ร้านโชวห่วยบริเวณที่อยู่อาศัย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยบ้างแต่ไม่มากนัก
ทั้งนี้ทางสมาคมฯ ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการทั้งค้าส่งและค้าปลีก มุ่งเน้นการบริหารสต็อกสินค้าให้รัดกุมมากขึ้น ระมัดการสั่งสินค้าเป็นจำนวนมาก และควรตรวจสอบว่าสินค้าประเภทไหนหรือกลุ่มไหนที่มีสภาพคล่องสูง และสินค้ากลุ่มใดที่ขายได้ลดลง เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่ข้าวยาก หมากแพง แบบนี้
"ร้านค้าส่งและค้าปลีกผ่านร้อนผ่านหนาวมานานแล้ว โดยเฉพาะกรณีโดนโมเดิร์นเทรดข้ามชาติต่างๆ ขยายสาขาเข้ามายังชุมชน สร้างผลกระทบต่อร้านค้าส่งและปลีกถ้วนหน้า ซึ่งก็ล้มละเนละนาดมามากพอแล้ว แต่ในช่วงที่ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่าย ร้านค้าส่งและค้าปลีกก็ไม่ล้มหายตายจากไปมากกว่านี้แล้ว"
นายสมชาย กล่าวในฐานะเป็นนายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยว่า กรณีที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ คงต้องรอดูนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้อยู่ร่วมกันได้ระหว่างโมเดิร์นเทรดข้ามชาติ
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ผลพวงจากราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง และมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้ขณะนี้ยอดขายของร้านค้าโชวห่วยหรือผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยลดลง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังหันไปซื้อสินค้าขนาดเล็กลง โดยพบว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าซับพลายเออร์หรือผู้ผลิตสินค้า หันมาเล่นกลยุทธ์ไซส์ซิ่งมากขึ้น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้น และจากการที่ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้คนเริ่มเลือกซื้อสินค้าที่โมเดิร์นเทรดจัดรายการบ้าง เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับการซื้อที่ร้านโชวห่วยบริเวณที่อยู่อาศัย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยบ้างแต่ไม่มากนัก
ทั้งนี้ทางสมาคมฯ ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการทั้งค้าส่งและค้าปลีก มุ่งเน้นการบริหารสต็อกสินค้าให้รัดกุมมากขึ้น ระมัดการสั่งสินค้าเป็นจำนวนมาก และควรตรวจสอบว่าสินค้าประเภทไหนหรือกลุ่มไหนที่มีสภาพคล่องสูง และสินค้ากลุ่มใดที่ขายได้ลดลง เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่ข้าวยาก หมากแพง แบบนี้
"ร้านค้าส่งและค้าปลีกผ่านร้อนผ่านหนาวมานานแล้ว โดยเฉพาะกรณีโดนโมเดิร์นเทรดข้ามชาติต่างๆ ขยายสาขาเข้ามายังชุมชน สร้างผลกระทบต่อร้านค้าส่งและปลีกถ้วนหน้า ซึ่งก็ล้มละเนละนาดมามากพอแล้ว แต่ในช่วงที่ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่าย ร้านค้าส่งและค้าปลีกก็ไม่ล้มหายตายจากไปมากกว่านี้แล้ว"
นายสมชาย กล่าวในฐานะเป็นนายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยว่า กรณีที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ คงต้องรอดูนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้อยู่ร่วมกันได้ระหว่างโมเดิร์นเทรดข้ามชาติ