xs
xsm
sm
md
lg

กกร.กระทุ้งรัฐบาลรับมือวิกฤต ศก. เตรียมบุกทำเนียบฯ 25 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด กกร.เตรียมบุกทำเนียบ 25 มี.ค.นี้ กระทุ้งรัฐบาล เร่งโครงการ เมกะโปรเจกต์ "เซาเทิร์นซีบอร์ด" เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ดูแลกลุ่มธุรกิจ "เอสเอ็มอี" และประมงชายฝั่ง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำมันแพง รวมถึงปัญหาบาทแข็ง

วันนี้ (18 มี.ค.) นายสันติ วิลาสศักดานท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบการภาคเอกชน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนราคาน้ำมัน และผลกระทบจากความผันผวนในตลาดการเงิน โดยระบุว่า ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะเข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอแนวทางรับมือความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจ

นายสันติ กล่าวว่า หัวข้อที่ กกร.จะนำไปหารือเพื่อให้รัฐบาลช่วยดำเนินการคือการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2551 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์ ) และต้องการให้เดินหน้าโครงการรองรับอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้หรือเซาเทิร์นซีบอร์ดรวมทั้งขอให้เดินหน้าโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) สำหรับผู้ส่งออกต้องการให้รัฐบาลเปิดตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมยังมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของค่าเงินบาท เนื่องจากขณะนี้ผู้ส่งออกต่างระบุว่าได้รับผลกระทบกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก จะทำให้กระแสเงินจำนวนมากไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในประเทศที่มีศักยภาพและไม่เข้มงวดในการควบคุมเงินไหลเข้า-ออก ซึ่งเงินคงไม่ไหลเข้าไปยังประเทศจีนและเวียดนาม เพราะจะนำเงินออกได้ลำบาก ขณะที่ไทยเป็นประเทศที่เปิดเสรีมากที่สุด

ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท ซึ่งทางธปท.เคยระบุว่า หากมีการเก็งกำไรค่าเงินบาทมากจะนำมาตรการที่จำเป็นมาใช้ ซึ่งเป็นการดีที่ช่วยปรามไม่ให้มีการเก็งกำไรเกิดขึ้น และอยากให้ ธปท.มีเป้าหมายกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ในใจและดูแลให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบดังกล่าว จะช่วยผู้ส่งออกได้

อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วย หากไทยจะเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนกลับไปกลับมา อีกปัญหาที่อยากให้รัฐบาลดูแลคือราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยอยากให้ช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอี และอีกภาคส่วนคือ ประมงชายฝั่ง ซึ่งขณะนี้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลลดลงมาก อีกทั้งประสบปัญหาราคาน้ำมันแพง จึงไม่ได้ออกเรือทุกวันจึงอยากให้รัฐบาลช่วยเจรจาเปิดน่านน้ำทะเลกับอินโดนีเซียหรือพม่าเพื่อให้ประมงของไทยสามารถไปจับปลาได้สะดวกขึ้น เพราะกองเรือประมงของไทยมีศักยภาพมาก

ขณะเดียวกัน ปัญหาน้ำมันแพงยังส่งผลกระทบให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น รัฐบาลควรเร่งวางแผนแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวโดยเร็วว่าภายใน 5 ปี จะมีแผนงานอะไรที่ชัดเจนและประกาศแผนออกมา รวมทั้งควรมีความชัดเจนเรื่องการใช้พลังงานทดแทนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น