กระทรวงพาณิชย์ เตรียมออกประกาศ ห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกพื้นที่-ส่งออกนอกประเทศ สัปดาห์หน้า โดยเชื่อว่ามีการลักลอบส่งออก เกินโควตาที่อนุญาต อาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน กดดันราคาในประเทศพุ่งอีก พร้อมตรวจเข้มผู้ผลิตลูกชิ้นหมู “เจ๊งมิ่ง” สวมบทพ่อพระใจดี เตรียมหาทางช่วยเหลือเกษตรกร หลังราคาลูกสุกรสูงขึ้นกว่า 1,000 บาท
วันนี้(14 มี.ค.) นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ตนออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งออก เนื่องจากขณะนี้หลายฝ่ายมองว่าปริมาณสุกรจะขาดแคลน จึงไม่อยากให้ผู้บริโภคประสบปัญหาหาซื้อสุกรมาบริโภคได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศได้ในสัปดาห์หน้า
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า หลังจากแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยเฉพาะสุกรราคาแพงแล้ว หลังจากนี้จะแก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยเฉพาะราคาลูกสุกร หากเปรียบเทียบกับเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เกษตรกรจะต้องซื้อลูกสุกรจากบริษัทรายใหญ่เพื่อไปเลี้ยงให้โตในราคาตัวละ 850 บาท แต่หากดูตัวเลขลูกสุกรในปี 2551 เดือน ม.ค. ราคาลูกสุกรอยู่ที่ 1,250 บาทต่อตัว เดือน ก.พ. 1,760 บาทต่อตัว และเดือน มี.ค. 1,800 บาทต่อตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ราคาปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1,000 บาทต่อตัว เห็นว่าค่อนข้างสูง ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์คงต้องหามาตรการช่วยผลกระทบให้แก่เกษตรกร และหาแนวทางช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว
นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงการประกาศห้ามในครั้งนี้ ก็เพื่อสกัดผู้ประกอบการที่ลักลอบส่งออกเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตเพื่อหากำไรเพิ่มเพราะราคาเนื้อหมูในประเทศเพื่อนบ้านสูงกว่า พร้อมทั้งตรวจสอบผู้ผลิตลูกหมูที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุให้ต้นทุนเนื้อหมูมีราคาสูง
"จะนำมาตรการให้แจ้งการเคลื่อนย้ายและห้ามการส่งออกมาใช้ โดยขอให้ปลัดกระทรวงฯ รับไปดำเนินการแล้ว"
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ติดตามและตรวจสอบการลักลอบนำหมูออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ราคาเนื้อหมูในประเทศเพื่อนบ้านสูงกว่าไทย เป็นเหตุจูงใจให้ผู้ประกอบส่งไปขายเป็นจำนวนมากเพื่อหากำไรส่วนต่าง ซึ่งอาจจะทำให้ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งการแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้มาตรการขอความร่วมมือเป็นส่วนใหญ่
สำหรับสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงหลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดราคาขายหมูบางส่วนที่กิโลกรัมละ 98 บาท โดยได้รับความร่วมมือจากห้างค้าปลีกและตลาดสดแล้วพบว่า ราคาเนื้อหมูในตลาดอื่นๆ ปรับลดลง มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 95-120 บาท ถือเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภค
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว กระทรวงจะเข้าไปดูแลการเลี้ยงสุกรทั้งระบบ โดยจะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าราคาลูกหมูขณะนี้มีราคาแพงขึ้นมาก และมีการปรับขึ้นราคาเร็วมากจากช่วงที่ผ่านมาราคาตัวละ 800 บาท เพิ่มเป็น 1,800 บาท
"ตอนนี้ราคาหมูเป็นกิโลกรัมละ 58 บาท เราก็ยืนตรงนี้ เราไม่แตะต้อง เพราะกระทบกับเกษตรกร โดยราคาปลายทาง คือ หมูเนื้อแดง เราทำได้ 98 บาท เพราะได้รับความร่วมมือตัดมาร์จิ้นลง แต่ระยะยาวเราต้องมาดูใหม่ ต้องปรับใหม่ทั้งระบบ เป็นไปได้ยังไงราคาหมูเป็น มีต้นทุนจากลูกหมู 30% มันแพงเกินไป ต้องเข้าไปดู"
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะดูแลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างเป็นธรรม โดยหลังจากนี้จะเน้นให้เกษตรกร ผู้ค้าสุกร มีอิสระในการดำเนินธุรกิจ ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น ซึ่งจะต้องไปดูที่ต้นตอ หากราคาต้นทางไม่มีเหตุผลก็จะต้องดูแลอย่างแน่นอน