หมูพาณิชย์โลละ 98 บาททำตลาดป่วน ประชาชนโวยหาซื้อไม่ได้ มีขายแค่ร้านค้าปลีกและตลาดสดบางแห่ง ส่วนตลาดทั่วไปราคา 120 เหมือนเดิม ขณะที่เขียงหมูโวยซ้ำพาณิชย์บิดเบือดตลาด ทำการค้าปั่นป่วน "บรรยิน" หูชา เกษตรกรโทร หาสายไหม้ แจงเหตุถูกบึบซื้อหมูเป็น ทำขาดทุนยับ "มิ่งขวัญ" ดิ้นลดราคาหมูระยะยาว ท้าขนรายใหญ่ปรับสูตรคำนวณราคาใหม่
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วานนี้ (6 มี.ค.) เป็นการจำหน่ายเนื้อหมูกิโลกรัมละ 98 บาทเป็นวันแรก ซึ่งในห้างค้าปลีกรายใหญ่ และตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการมีเนื้อหมูราคาดังกล่าวจำหน่ายแล้วแต่กลับพบว่าได้เกิดความปั่นป่วนในส่วนของตลาดสดที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เพราะจะถูกประชาชนมาต่อว่าพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูว่าทำไมถึงไม่ขายเนื้อหมูกิโลกรัมละ 98 บาทตามที่กระทรวงพาณิชย์บอก ทำไมถึงขาย 120 บาทเหมือนเดิม
ผู้ประกอบการเขียงหมู ย่านตลาดประชานิเวศน์กล่าวว่า การค้าเนื้อหมูปั่นป่วนทันที เมื่อกระทรวงพาณิชย์บอกจะนำหมูกิโลกรัมละ 98 บาทมาขายประชาชนส่วนใหญ่จะขอซื้อที่ราคาดังกล่าว แต่ขายให้ไม่ได้ เพราะโรงชำแหละส่งเนื้อหมูกิโลกรัมละ 99 บาท ทำให้ต้องขายหน้าเขียงราคา 120 บาทเหมือนเดิม โรงชำแหละต้องส่งเนื้อหมูให้กิโลกรัมละ 70-80 บาท
"กรมการค้าภายในบอกได้ยังไงว่า ให้เป็นไปตามกลไกตลาด นี่มันบิดเบือนกลไกตลาดชัดๆ ถ้าอยากให้พ่อค้าแม่ค้าขายหมูหน้าเขียงกก.ละ 98 บาท ก็ต้องให้โรงชำแหละส่งกก.ละ 70-80 บาทก่อน"
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า จากการตรวจสอบสถาณการณ์การจำหน่ายเนื้อหมูในร้านค้าปลีกและตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการพบว่าเนื้อหมูราคากิโลกรัมละ 98 บาทออกมาจำหน่ายตามที่ได้มีการประกาศไว้ และมีเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งถือเป็นการช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ได้วางไว้และหวังว่าหลังจากพ้นระยะ 2 เดือนนี้ไปแล้ว ราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงจากปัจจุบันที่กิโลกรัมละ 120 บาท
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า เกษตรรอยาตื่นตระหนากับการขอตรึงราคาหน้าฟาร์มที่กิโลกรัมละ 58-60 บาท เป็นเวลา 2 เดือน และแนะนำให้เกษตรกรสามารถขายได้ในราคาหน้าฟาร์มกเดิม โดยให้ผู้เลี้ยงคำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่ได้ซึ่งคือการรวมตัวกัน โดยส่วนตัวคิดว่าการจะแก้ปัญหาราคาสุกรรัฐต้องเข้าไปควบคุมดูแลในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อย่างครบวงจร ทั้งนี้ร่วมถึงราคาปุ๋ยที่ใช้ในการปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ และขณะนี้ได้ทำหนังสือเกี่ยวกับผลกระทบจากการประกาศราคาขายที่ 98 บาทต่อกิโลกรัมโดยมีการยื่นต่อ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกกรณ์
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศลดราคาหมูเนื้อกแดงลงมาเหลือกิโลกรัมละ 98 บาท ก็ได้มีโทรศัพย์จากเกษตรกรเข้ามาต่อว่าทำไปได้อย่างไรเพราะราคาแบบนี้ เกษตรกรจะถูกกดราคาซื้อหมูเป็นอย่างหนัก ทำให้เกษตรกรเดือนร้อน ซึ่งเกษตากรกำลังจะประท้วนในเรื่องนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูแดงแพงในระยะยาวนั้นนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ต้องการที่จะปรับสูตรในการคำนวณราคาใหม่ เพราะช่วงทางจากหมูเป็นมาเป็นหมูหน้าเขียงมีกำไรสูงถึง 100% แต่ก็ได้รับการคัดค้านจากผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายที่ทำธุรกิจครบวงจรเพราะหากปรับสูตรจำทำให้กำไรลดลง
มิ่งขวัญต่อนมผงราคาวันจันทร์
ที่รัฐสภา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพงว่า จะคงราคาหมูที่ 98 บาทต่อกิโลกรัมไว้ 2 เดือนแล้วว่ากันใหม่ จากเดิมราคาจะอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะใช้ห้างสรรสินค้าขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ คาร์ฟูร์ แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี นอกจากนี้ยังอาจจะจำหน่ายในตลาดใหญ่ๆ ในระดับกิโลกรัมละ 98 บาทนั้น ถือเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการ โดยในวันที่ 10 มี.ค.จะมีข่าวดีในเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภคคือนมผงและสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมหารือกันเพื่อกำหนดกความชัดเจนว่า จะปรับสินค้าใดลงบ้าง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วานนี้ (6 มี.ค.) เป็นการจำหน่ายเนื้อหมูกิโลกรัมละ 98 บาทเป็นวันแรก ซึ่งในห้างค้าปลีกรายใหญ่ และตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการมีเนื้อหมูราคาดังกล่าวจำหน่ายแล้วแต่กลับพบว่าได้เกิดความปั่นป่วนในส่วนของตลาดสดที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เพราะจะถูกประชาชนมาต่อว่าพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูว่าทำไมถึงไม่ขายเนื้อหมูกิโลกรัมละ 98 บาทตามที่กระทรวงพาณิชย์บอก ทำไมถึงขาย 120 บาทเหมือนเดิม
ผู้ประกอบการเขียงหมู ย่านตลาดประชานิเวศน์กล่าวว่า การค้าเนื้อหมูปั่นป่วนทันที เมื่อกระทรวงพาณิชย์บอกจะนำหมูกิโลกรัมละ 98 บาทมาขายประชาชนส่วนใหญ่จะขอซื้อที่ราคาดังกล่าว แต่ขายให้ไม่ได้ เพราะโรงชำแหละส่งเนื้อหมูกิโลกรัมละ 99 บาท ทำให้ต้องขายหน้าเขียงราคา 120 บาทเหมือนเดิม โรงชำแหละต้องส่งเนื้อหมูให้กิโลกรัมละ 70-80 บาท
"กรมการค้าภายในบอกได้ยังไงว่า ให้เป็นไปตามกลไกตลาด นี่มันบิดเบือนกลไกตลาดชัดๆ ถ้าอยากให้พ่อค้าแม่ค้าขายหมูหน้าเขียงกก.ละ 98 บาท ก็ต้องให้โรงชำแหละส่งกก.ละ 70-80 บาทก่อน"
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า จากการตรวจสอบสถาณการณ์การจำหน่ายเนื้อหมูในร้านค้าปลีกและตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการพบว่าเนื้อหมูราคากิโลกรัมละ 98 บาทออกมาจำหน่ายตามที่ได้มีการประกาศไว้ และมีเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งถือเป็นการช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ได้วางไว้และหวังว่าหลังจากพ้นระยะ 2 เดือนนี้ไปแล้ว ราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงจากปัจจุบันที่กิโลกรัมละ 120 บาท
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า เกษตรรอยาตื่นตระหนากับการขอตรึงราคาหน้าฟาร์มที่กิโลกรัมละ 58-60 บาท เป็นเวลา 2 เดือน และแนะนำให้เกษตรกรสามารถขายได้ในราคาหน้าฟาร์มกเดิม โดยให้ผู้เลี้ยงคำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่ได้ซึ่งคือการรวมตัวกัน โดยส่วนตัวคิดว่าการจะแก้ปัญหาราคาสุกรรัฐต้องเข้าไปควบคุมดูแลในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อย่างครบวงจร ทั้งนี้ร่วมถึงราคาปุ๋ยที่ใช้ในการปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ และขณะนี้ได้ทำหนังสือเกี่ยวกับผลกระทบจากการประกาศราคาขายที่ 98 บาทต่อกิโลกรัมโดยมีการยื่นต่อ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกกรณ์
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศลดราคาหมูเนื้อกแดงลงมาเหลือกิโลกรัมละ 98 บาท ก็ได้มีโทรศัพย์จากเกษตรกรเข้ามาต่อว่าทำไปได้อย่างไรเพราะราคาแบบนี้ เกษตรกรจะถูกกดราคาซื้อหมูเป็นอย่างหนัก ทำให้เกษตรกรเดือนร้อน ซึ่งเกษตากรกำลังจะประท้วนในเรื่องนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูแดงแพงในระยะยาวนั้นนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ต้องการที่จะปรับสูตรในการคำนวณราคาใหม่ เพราะช่วงทางจากหมูเป็นมาเป็นหมูหน้าเขียงมีกำไรสูงถึง 100% แต่ก็ได้รับการคัดค้านจากผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายที่ทำธุรกิจครบวงจรเพราะหากปรับสูตรจำทำให้กำไรลดลง
มิ่งขวัญต่อนมผงราคาวันจันทร์
ที่รัฐสภา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพงว่า จะคงราคาหมูที่ 98 บาทต่อกิโลกรัมไว้ 2 เดือนแล้วว่ากันใหม่ จากเดิมราคาจะอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะใช้ห้างสรรสินค้าขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ คาร์ฟูร์ แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี นอกจากนี้ยังอาจจะจำหน่ายในตลาดใหญ่ๆ ในระดับกิโลกรัมละ 98 บาทนั้น ถือเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการ โดยในวันที่ 10 มี.ค.จะมีข่าวดีในเรื่องของสินค้าอุปโภคบริโภคคือนมผงและสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมหารือกันเพื่อกำหนดกความชัดเจนว่า จะปรับสินค้าใดลงบ้าง
