xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวตั้ง 5 บอร์ดคุมเมกะโปรเจกต์ “หมัก” นั่งหัวโต๊ะลุยเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครม.ไฟเขียวตั้ง 5 คณะกรรมการคุมโครงการเมกะโปรเจกต์แล้ว “สมัคร” นั่งหัวโต๊ะเองทุกชุด ปิดทางขั้วเก่าทวงคืนอำนาจ “เลี้ยบ” พร้อมจัดวงเงินลงทุนเบื้องต้น 1.5 แสนล้าน

น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ระบุว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) กำกับและขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล 5 คณะ เพื่อดำเนินนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลทั้ง 19 ข้อในปีแรก และนโยบายในระยะการบริหารราชการ 4 ปี ของรัฐบาลอีก 7 ข้อ

สำหรับคณะกรรมการทั้ง 5 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศและท่าอากาศยาน, คณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน, คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน, คณะกรรมการพัฒนาระบบการศึกษาและการเรียนรู้ และคณะกรรมการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ทั้งนี้ คณะกรรมการทุกชุดจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นรองประธาน แต่จะมีรองนายกรัฐมนตรีในแต่ละสายงานเป็นรองประธานกรรมการร่วม โดยนายกรัฐมนตรี เห็นว่า นพ.สุรพงษ์ เป็นรองนายกฯ และ รมว.คลัง ซึ่งกำกับดูแลเรื่องของงบประมาณจึงควรจะรับทราบในทุกเรื่อง

น.ส.ศุภรัตน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี 6 คณะ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนเป็นประธาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการทำงานของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าการทำงานจะมีลักษณะเหมือนการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก

นพ.สุรพงษ์ กล่าวถึงรายละเอียดของบอร์ดเมกะโปรเจกต์ทั้ง 5 ชุด โดยชุดที่ 1.ดูแลด้านระบบขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟในภูมิภาค ชุดที่ 2.ดูแลท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานในภูมิภาค ชุดที่ 3.ด้านชลประทาน ชุดที่ 4.ด้านการศึกษา เพื่อลงทุนวางระบบคอมพิวเตอร์ ส่งเสริมให้เด็กมีความรู้ทั้งในและนอกโรงเรียนและ และชุดที่ 5.ด้านสาธารณสุข เพื่อพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยและระบบแพทย์เฉพาะทางให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ส่วนระบบลอจิสติกส์จะช่วยลดต้นทุนจากการขนส่งให้ลดลง เนื่องจากไทยมีภาระต้นทุนด้านการขนส่งสูงถึงร้อยละ 18 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วมีต้นทุนด้านการขนส่งเพียงร้อยละ 7-8 ของจีดีพี

นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการทั้ง 5 คณะ เร็วๆ นี้ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการเดินหน้าโครงการให้ชัดเจน โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เตรียมแผนจัดหาแหล่งเงินทุนรองรับการก่อสร้างเบื้องต้นคาดว่าใช้เงินประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท

“ผมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาด้านแหล่งเงินทุน เพราะปีแรกใช้เงินลงทุนไม่สูง แต่จะเริ่มใช้มากขึ้นในช่วงปี 2-3 ส่วนแหล่งเงินทุนจะดูจากส่วนต่างๆ ให้เกิดความเหมาะสม มีต้นทุนไม่สูงมากนัก ด้วยการกู้เงินทั้งในและต่างประเทศ การกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ และการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน”
กำลังโหลดความคิดเห็น