ปชป.แฉแผนรัฐบาลลูกกรอก หมกเม็ดโครงการโละรถเมล์ร้อน เช่ารถปรับอากาศมาวิ่งแทน 6,000 คัน เริ่มต้นวิ่งที่ 15 บาท ขูดเลือด ปชช.ซ้ำ พบกลิ่นฮั้วพิรุธบริษัทจีนเสนอใต้โต๊ะคันละ 1 ล้านบาท เรียกร้องทุกฝ่ายจับตาก่อนยื่นศาลปกครองสูงสุด-ป.ป.ช.สอบ
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายถาวร เสนเนียม กรรมการบริหารพรรค ปชป.กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน นอกจากจะไม่ดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้วยังได้สร้างภาระเพิ่มเติมให้อีกด้วย ด้วยการมีความคิดที่จะยกเลิกใช้รถเมล์ร้อน ทั้งสายครีม-แดง และขาว-เขียว และจะใช้วิธีการเช่ารถปรับอากาศมาใช้ทั้งหมดจำนวน 6,000 คัน โดยอ้างว่าเป็นการประหยัดพลังงาน ยกเลิกการใช้น้ำมันหันมาใช้แก๊ส NGV และง่ายต่อการจัดการ โดยอีก 10 ปี สามารถแก้ปัญหาหนี้สิน และมีกำไร
“แต่สิ่งที่ซ่อนเร้น คือ โครงสร้างการจัดการและการจัดเก็บค่าโดยสารที่กระทบต่อประชาชน ขณะนี้ราคารถร่วมครีม-แดง วิ่งตลอดสาย 7 บาท ขาว-เขียว 8 บาท ส่วนรถแอร์ ขาว-น้ำเงิน และรถยูโร เริ่มต้นที่ 12 บาท แต่เมื่อเมื่อโครงการที่นายกฯ จะดำเนินการจะเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุดถึง 30 บาท ผลกระทบจะตกอยู่กับคนจนไม่มีสิทธิ์เลือก ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นการช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน”
นายถาวร กล่าวว่า หากนายกฯต้องการจะประหยัดพลังงานจริง ก็ควรจะนำรถเมล์ร้อนที่มีอยู่จำนวน 3 พันคัน ไปเปลี่ยนเครื่องยนต์เพื่อใช้แก๊ส NGV ที่ไม่ต้องลงทุนมากและเก็บค่าโดยสารในราคาเท่าเดิมได้ เพราะหากจะใช้วิธีการเช่ารถปรับอากาศจากเอกเชน ในอนาคตสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการขยับขึ้นราคาอีกเพราะมีความเป็นได้สูงว่าเอกชนจะขอต่อรองขอขึ้นราคาอย่างแน่นอน เพราะมีอำนาจต่อรองสูงเนื่องจากมีรถทั้งหมดอยู่ในมือ
นอกจากนี้ นายถาวรยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีไม่นำเรื่องนี้มาพูดในรายการจะต้องมีความมาพากล และเห็นว่าประชาชนจะต้องออกมาคัดค้านจึงได้ปกปิดเอาไว้ แล้วค่อยนำไปเข้าสู่การประชุม ครม.เพื่อออกเป็นมติเสียก่อน อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลยังดึงดันที่จะใช้โครงการดังกล่าว ประชาชนสามารถไปร้องเรียนต่อศาลปกครอง หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ในฐานะที่ออกคำสั่งโดยมิชอบ และมีการทุจริต
“ขณะนี้ผมมีข้อมูลหลักฐานว่า มีบริษัทสัญชาติจีนบริษัทหนึ่งที่มีคนไทยเป็นเอเยนต์ กำลังล็อบบี้กับบุคคลระดับรัฐมนตรี คือ มิสเตอร์ที และ มิสเตอร์เอส ที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการฯชุดนี้ โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนหรือจ่ายใต้โต๊ะให้คันละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 6 พันล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสูงสุดในรัฐบาล กลุ่มกลาง คือ ระดับรัฐมนตรีว่าการ และกลุ่มล่าง คือ ระดับรัฐมนตรีช่วย จึงขอเตือนนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการ นพ.สุรพงษ์ (สืบวงศ์ลี) รองนายกและรมว.คลัง นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกฯดูแลคมนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคมและนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ถ้าปล่อยให้มีโครงการนี้และมีการทุจริตเกิดขึ้น โดยไม่นึกถึงปัญหาความเดือดร้อนของคนจน ผมจะต้องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ให้ตรวจสอบต่อไป”
