โมเดิร์นไนน์ จับตา ทีพีบีเอส หวั่นแย่งฐานคนดูกลุ่มนิยมสาระ ข่าวสาร เหตุเป็นฐานตลาดเป้าหมายเดียวกัน เล็งปรับผังรายการกลางปี รับมือรักษาฐานคนดูเอาไว้ พร้อมใส่สาระบันเทิงเสริมอีก เผย ปีนี้วงการทีวีไทยจะเผชิญจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีก หลังกฎหมายวิทยุทีวีประกาศใช้ ผู้ประกอบการคงแห่ทำทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี เพียบแน่ ฟรีทีวีเตรียมเจ็บตัวถูกแย่งงบโฆษณา
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวของสถานีโทรทัศน์สาธารณะไทยพีบีเอส หรือ ทีพีบีเอส นั้น ทางโมเดิร์นไนน์ต้องจับตาดูและศึกษาถึงรูปแบบ รวมทั้งผังรายการของทีพีบีเอสอย่างละเอียดอีกครั้งภายหลังจากที่จะมีการออกอากาศจริงเต็มรูปแบบ ทั้งรายการประเภทข่าวสาร สาระ เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการเริ่มออกอากาศ แต่ไม่เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1-14 กุมภาพันธ์
เนื่องจากว่ารายการประเภทดังกล่าวเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกับโมเดิร์นไนน์ที่เน้นสังคมอุดมปัญญา จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีการแย่งฐานคนดูจากโมเดิร์นไนน์ที่นิยมรายการประเภทดังกล่าวไปได้ และเป็นฐานคนดูเดียวกัน เนื่องจากว่า ทีพีบีเอส ไม่มีการโฆษณาเป็นจุดได้เปรียบที่ทำให้คนอาจหันไปดูง่ายขึ้น
คาดว่า ช่วงกลางปีนี้ โมเดิร์นไนน์ อาจต้องปรับผังรายการอีกครั้ง เพื่อให้แตกต่างจาก ทีพีบีเอส และรักษาฐานคนดูที่นิยมสาระ ความรู้ ข่าวสาร เอาไว้ และจะเพิ่มรายการประเภทสาระบันเทิงเข้ามาด้วยส่วนหนึ่งผ่านรูปแบบรายการซีซันนัล โปรแกรมของช่อง 9 ในกลุ่มเรียลิตี้ โชว์ ตลอดปีทั้งหมด 4 โปรแกรม ที่ดูสนุกเพื่อขยายฐานกลุ่มแมสด้วย ตามโพซิชันนิงของช่องที่เป็นช่องที่เน้น “สังคมอุดมปัญญา” เหมือนเดิม
“ผมว่าตอนนี้สถานีทีวีทุกช่อง ก็คงจับตามอง ทีพีบีเอส อย่างใกล้ชิดเหมือนกัน เพราะถือได้ว่า จะเป็นตัวสร้างการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทีวีไทยอีกยุคหนึ่ง โดยเฉพาะการที่เป็นทีวีที่ไม่มีโฆษณา ดังนั้น อาจจะแย่งกลุ่มผู้ชมที่ดูรายการสาระจากทุกช่องไปได้ส่วนหนึ่ง” นายเขมทัตต์ กล่าว
ทั้งนี้ จะสังเกตได้ว่า ที่ผ่านมา ทีวีหลายช่องก็เริ่มมีการปรับตัวปรับผังกันบ้างแล้ว โดยได้เติมรายการสาระความรู้บรรจุในผังมากขึ้นในรูปแบบต่างๆ กันไป เช่น ช่อง 3 ช่อง 7 ที่มีฐานคนดูหลัก คือ กลุ่มแมส ก็เพิ่มรายการสาระข่าวมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ช่องโมเดิร์นไนน์ปรับตัวมาก่อนแล้ว และเราก็ยังเชื่อว่า โมเดิร์นไนน์ จะได้รับอานิสงส์โฆษณาจากช่องทีไอทีวีเดิมมากกว่าช่องอื่น
โดยตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว พบว่า ช่องที่มีส่วนแบ่งจากโฆษณาของสื่อทีวีมากที่สุด คือ ช่อง 7 ขณะที่ ช่อง 3 ตามมาเป็นอันดับที่สอง ห่างกันไม่มากนักอยู่ที่ 24% ส่วนช่อง 5 อยู่ที่ 15% โดยมี โมเดิร์นไนน์ อยู่อันดับที่สี่ คือ 14% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ของส่วนแบ่งผู้ชมแล้ว โมเดิร์นไนน์ อยู่อันดับที่สาม โดยมีช่อง 3 เป็นผู้นำ ตามด้วยช่อง 7 ที่เป็นกลุ่มแมส
นายเขมทัตต์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า จุดเปลี่ยนอีกอย่างของวงการทีวีไทยในปีนี้ คือ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กฎหมายวิทยุทีวี) ที่กำลังรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคาดว่า จะประกาศใช้เร็วๆ นี้ ก็จะทำให้ภาพการแข่งขันและการเคลื่อนไหวของวงการทีวีมีมากขึ้นด้วย เพราะคาดว่าจะมีผู้มาขอใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี จำนวนมากอย่างถูกกฎหมาย
“ธุรกิจเคเบิลทีวี และ ทีวีดาวเทียม ที่ถูกกฎหมาย จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของฟรีทีวีอย่างน่ากลัว ที่จะต้องปรับตัว เพราะว่าใน พ.ร.บ.ใหม่นี้ ระบุว่า เคเบิลทีวีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสามารถมีโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมง หรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของฟรีทีวีเลยทีเดียว ดังนั้น ตรงนี้เองที่เคเบิลทีวีอาจจะเป็นกิจการที่เข้ามาแย่งเม็ดเงินโฆษณาจากฟรีทีวีไปได้”
อย่างไรก็ตาม ทาง อสมท เองก็ได้เตรียมตัวไว้แล้วเช่นกัน เนื่องจาก อสมท มี ช่อง MCOT1 และ MCOT2 ซึ่งปัจจุบันนี้ออกอากาศทางเคเบิลทีวี ทรูวิชั่นส์ ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการในรูปแบบทีวีดาวเทียมได้ทันทีเช่นกัน
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวของสถานีโทรทัศน์สาธารณะไทยพีบีเอส หรือ ทีพีบีเอส นั้น ทางโมเดิร์นไนน์ต้องจับตาดูและศึกษาถึงรูปแบบ รวมทั้งผังรายการของทีพีบีเอสอย่างละเอียดอีกครั้งภายหลังจากที่จะมีการออกอากาศจริงเต็มรูปแบบ ทั้งรายการประเภทข่าวสาร สาระ เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการเริ่มออกอากาศ แต่ไม่เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1-14 กุมภาพันธ์
เนื่องจากว่ารายการประเภทดังกล่าวเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกับโมเดิร์นไนน์ที่เน้นสังคมอุดมปัญญา จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งอาจจะมีการแย่งฐานคนดูจากโมเดิร์นไนน์ที่นิยมรายการประเภทดังกล่าวไปได้ และเป็นฐานคนดูเดียวกัน เนื่องจากว่า ทีพีบีเอส ไม่มีการโฆษณาเป็นจุดได้เปรียบที่ทำให้คนอาจหันไปดูง่ายขึ้น
คาดว่า ช่วงกลางปีนี้ โมเดิร์นไนน์ อาจต้องปรับผังรายการอีกครั้ง เพื่อให้แตกต่างจาก ทีพีบีเอส และรักษาฐานคนดูที่นิยมสาระ ความรู้ ข่าวสาร เอาไว้ และจะเพิ่มรายการประเภทสาระบันเทิงเข้ามาด้วยส่วนหนึ่งผ่านรูปแบบรายการซีซันนัล โปรแกรมของช่อง 9 ในกลุ่มเรียลิตี้ โชว์ ตลอดปีทั้งหมด 4 โปรแกรม ที่ดูสนุกเพื่อขยายฐานกลุ่มแมสด้วย ตามโพซิชันนิงของช่องที่เป็นช่องที่เน้น “สังคมอุดมปัญญา” เหมือนเดิม
“ผมว่าตอนนี้สถานีทีวีทุกช่อง ก็คงจับตามอง ทีพีบีเอส อย่างใกล้ชิดเหมือนกัน เพราะถือได้ว่า จะเป็นตัวสร้างการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทีวีไทยอีกยุคหนึ่ง โดยเฉพาะการที่เป็นทีวีที่ไม่มีโฆษณา ดังนั้น อาจจะแย่งกลุ่มผู้ชมที่ดูรายการสาระจากทุกช่องไปได้ส่วนหนึ่ง” นายเขมทัตต์ กล่าว
ทั้งนี้ จะสังเกตได้ว่า ที่ผ่านมา ทีวีหลายช่องก็เริ่มมีการปรับตัวปรับผังกันบ้างแล้ว โดยได้เติมรายการสาระความรู้บรรจุในผังมากขึ้นในรูปแบบต่างๆ กันไป เช่น ช่อง 3 ช่อง 7 ที่มีฐานคนดูหลัก คือ กลุ่มแมส ก็เพิ่มรายการสาระข่าวมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ช่องโมเดิร์นไนน์ปรับตัวมาก่อนแล้ว และเราก็ยังเชื่อว่า โมเดิร์นไนน์ จะได้รับอานิสงส์โฆษณาจากช่องทีไอทีวีเดิมมากกว่าช่องอื่น
โดยตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว พบว่า ช่องที่มีส่วนแบ่งจากโฆษณาของสื่อทีวีมากที่สุด คือ ช่อง 7 ขณะที่ ช่อง 3 ตามมาเป็นอันดับที่สอง ห่างกันไม่มากนักอยู่ที่ 24% ส่วนช่อง 5 อยู่ที่ 15% โดยมี โมเดิร์นไนน์ อยู่อันดับที่สี่ คือ 14% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ของส่วนแบ่งผู้ชมแล้ว โมเดิร์นไนน์ อยู่อันดับที่สาม โดยมีช่อง 3 เป็นผู้นำ ตามด้วยช่อง 7 ที่เป็นกลุ่มแมส
นายเขมทัตต์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า จุดเปลี่ยนอีกอย่างของวงการทีวีไทยในปีนี้ คือ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กฎหมายวิทยุทีวี) ที่กำลังรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคาดว่า จะประกาศใช้เร็วๆ นี้ ก็จะทำให้ภาพการแข่งขันและการเคลื่อนไหวของวงการทีวีมีมากขึ้นด้วย เพราะคาดว่าจะมีผู้มาขอใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี จำนวนมากอย่างถูกกฎหมาย
“ธุรกิจเคเบิลทีวี และ ทีวีดาวเทียม ที่ถูกกฎหมาย จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของฟรีทีวีอย่างน่ากลัว ที่จะต้องปรับตัว เพราะว่าใน พ.ร.บ.ใหม่นี้ ระบุว่า เคเบิลทีวีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสามารถมีโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมง หรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของฟรีทีวีเลยทีเดียว ดังนั้น ตรงนี้เองที่เคเบิลทีวีอาจจะเป็นกิจการที่เข้ามาแย่งเม็ดเงินโฆษณาจากฟรีทีวีไปได้”
อย่างไรก็ตาม ทาง อสมท เองก็ได้เตรียมตัวไว้แล้วเช่นกัน เนื่องจาก อสมท มี ช่อง MCOT1 และ MCOT2 ซึ่งปัจจุบันนี้ออกอากาศทางเคเบิลทีวี ทรูวิชั่นส์ ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการในรูปแบบทีวีดาวเทียมได้ทันทีเช่นกัน